บทนำ : เหตุเกิดที่อุดร

บทนำ : เหตุเกิดที่อุดร กรณีแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว อายุ 28 ปี ชาว อ.บ้านดุง

กรณีแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว อายุ 28 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้มารับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางมาวังนาคินทร์ คำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานีและกล่าวกับนายกรัฐมนตรีว่า ให้พัฒนาประเทศให้มากๆ หากพัฒนาไม่ได้ก็ให้เกษียณเร็วๆ ให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ต่อมามีกระแสข่าวว่า ตำรวจได้ติดต่อเรียกตัวหญิงดังกล่าวมาทำประวัติ หรือปรับทัศนคติ

ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล แห่งสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กให้ความเห็นส่วนตัวว่า ตามหลักกฎหมายเจ้าหน้าที่รัฐจะกระทำการสิ่งใดได้ ต้องมีกฎหมายให้อำนาจไว้ ถ้าไม่มีกฎหมายให้อำนาจจะกระทำการไม่ได้ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 11 ให้ตำรวจพิมพ์ลายนิ้วมือได้เฉพาะกรณีต่อไปนี้ (1) ผู้ต้องหาคดีอาญา (2) ศพซึ่งตายผิดธรรมชาติ (3) การขออนุญาตทำการอย่างใด ที่มีกฎหมายหรือระเบียบให้ตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ขออนุญาต (4) การพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้สมัครเข้ารับราชการหรือเข้าทำงานในหน่วยงานต่างๆ

ต่อมา ผบก.ภว.จว.อุดรธานี และนายตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ทั้ง สภ.บ้านดุง และ สภ.ดงเย็น ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการเรียกตัว ขณะที่ นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เสนอตัวช่วยเหลือ และขอหมายเลขโทรศัพท์ตำรวจที่โทรมาเรียกด้วย

กรณีดังกล่าวหากเป็นจริง เท่ากับเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ เพียงแค่ประชาชนที่เป็นสตรีแสดงความเห็นต่อนายกฯ กลายเป็นความผิดใหญ่โตถึงขนาดต้องทำประวัติเพื่อให้เกิดความหวาดกลัว เป็นอุทาหรณ์การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งควรคุ้มครองสิทธิของประชาชนมากกว่าจะคุกคามประชาชนเสียเอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image