เดินหน้าชน : สู้ด้วยนโยบาย

เดินหน้าชน : สู้ด้วยนโยบาย การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่คาดว่าจะไม่เกินมิถุนายน ปี 2565 ตามการยืนยันของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม

กลับมาคึกคัก กลายเป็นกระแสที่คนกรุงให้ความสนใจ หลังการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในนามอิสระ และ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

หากมีการเลือกตั้งในปี’65 จริงตามที่ “บิ๊กตู่” ให้คำสัญญา จะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในรอบกว่า 9 ปี

โดยการหย่อนบัตรเลือกตั้งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2556 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จาก ปชป. ชนะการเลือกตั้งโดยได้ 1,256,349 คะแนน ชนะ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ได้อันดับ 2 เกือบ 2 แสนคะแนน

Advertisement

มีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 2,715,640 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 4,244,465 คน คิดเป็น 63.98%

ในครั้งนั้นผู้สมัครที่ขับเคี่ยวและมีความโดดเด่นมีเพียง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เท่านั้น

แต่คราวนี้นอกจาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ยังมีว่าที่ผู้สมัครจาก “พรรคก้าวไกล” ที่รอการเปิดตัวช่วงต้นปีหน้า และ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่รอการเฟ้นหาผู้สมัคร หลังชวด ผู้ว่าฯหมูป่า หรือ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ที่ขาดคุณสมบัติ

Advertisement

จึงเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างสนุกในนโยบาย ทิศทางที่จะพัฒนากรุงเทพมหานคร และจะเป็นทางเลือกให้กับคนกรุงที่จะตัดสินใจเฟ้นคนเก่งเข้ามาบริหารมหานครระดับโลกแห่งนี้

เฉพาะนโยบายที่ 2 ว่าที่ผู้สมัครอย่าง “ชัชชาติ” และ “สุชัชวีร์”ได้ประกาศออกมาก็มีความน่าสนใจแล้ว

เริ่มจาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เน้นนโยบาย 4 ด้าน ภายใต้สโลแกน “เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” ประกอบด้วย

1.People เรื่องคน เน้นระบบเส้นเลือดฝอยและคุณภาพชีวิต

2.Digital เรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล ต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดขั้นตอน

3.Green เรื่องสิ่งแวดล้อม เน้นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ขยะ ควันพิษ ฝุ่น

4.Economy เรื่องเศรษฐกิจ ตอนนี้เศรษฐกิจมีปัญหาเมือง ต้องมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจของคนให้มากขึ้น พยายามสร้างโอกาสคน ลดขั้นตอน หนุนให้เศรษฐกิจฟื้นคืนมา

ทำ กทม.เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

ส่วน สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ชูสโลแกน “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” นโยบายด้านการศึกษา ตั้งใจให้ กทม.มีโรงเรียนสาธิตทุกเขต ให้เด็กเรียน 2 ภาษา รู้โค้ดดิ้ง รู้ AI

เปลี่ยนกรุงเทพฯเป็นเมืองสวัสดิการ ดูแลพลเมืองทุกคนอย่างมีคุณภาพ ทั้งการจัดการสาธารณูปโภคพื้นฐาน การขนส่งมวลชน ถนน ฟุตปาธ การจัดการศึกษาฟรี ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ และการดูแลรักษาพยาบาลตั้งแต่ตั้งครรภ์ถึงสูงอายุ

การเข้าถึงสินค้าอาหารการกินได้ง่าย ราคาถูกและปลอดภัย เดินทางสะดวกเข้าถึงทุกพื้นที่ ทุกคนเท่าเทียม มีสวนสาธารณะขนาดย่อมทั่วกรุงเทพฯ

นโยบายแก้น้ำท่วม ใช้แก้มลิงใต้ดินแบบกรุงโตเกียว วางแผนประตูกั้นน้ำทะเลหนุนแบบเนเธอร์แลนด์ หรือแบบเมืองเวนิส

นโยบายแก้รถติด ใช้ระบบสัญญาณจราจรอัตโนมัติ ควบคุมด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI เหมือนสิงคโปร์ โตเกียว ปักกิ่ง นิวยอร์ก ลอนดอน อินเตอร์เน็ตต้องฟรี ส่งเสริมการเรียนรู้ ทำมาหากิน เข้าถึงโอกาสในการค้าขายออนไลน์ เพิ่มพื้นที่จราจร มีทางจักรยานลอยฟ้า ทำพื้นที่ใต้ดินทำมาค้าขาย เป็นต้น

จากนี้คงต้องจับตาการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครที่จะออกมาเรื่อยๆ การชูนโยบายที่จะเป็นทางเลือกให้กับคนกรุงว่าจะน่าสนใจแค่ไหน

จากข้อมูลของกรมการปกครอง คาดว่าในปี 2565 จะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 4,478,150 คน เป็นผู้ชาย 2,047,984 คน ผู้หญิง 2,430,166 คน และจะมีนิวโหวตประมาณ 61,351 คน

ปัจจัยที่จะเป็นตัวชี้ผลแพ้ชนะ ปัจจัยแรกคือ นโยบายจะสามารถโน้มน้าวให้คนกรุงเทพฯเห็นคล้อยตามได้มากน้อยแค่ไหน

และปัจจัยที่สองคือ ปัจจัยทางด้านการเมือง ความนิยมและชื่นชอบในพรรคการเมือง

จากนี้คงต้องจับตาการชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. คาดว่าช่วงต้นปีหน้าจะมีความคึกคักยิ่งขึ้น เพราะรัฐบาลน่าจะเคาะวันเลือกตั้งออกมา

คงได้เห็นสีสัน การแข่งขันต่อสู้กันด้วยนโยบาย เพื่อเอาชนะใจคนกรุง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image