พรรคพลังประชารัฐ แถลงกรณีขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค พปชร.พร้อม 20 ส.ส.รวม 21 คน ออกจากพรรคว่า เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส และคณะ เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ปรับโครงสร้างพรรค ถ้าไม่ปรับจะเคลื่อนไหวให้พรรคเสียหาย ซึ่งหัวหน้าพรรคเกรงเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ จึงนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. 78 คน ประกอบด้วย กก.บห. 17 คน และ ส.ส. 61 คน เห็นว่าไม่สามารถทำตามข้อเสนอได้ ข้อเสนอเป็นเหตุร้ายแรงตามข้อบังคับพรรค จึงมีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส และ ส.ส.กลุ่มดังกล่าว ด้วยเสียง63 เสียง เกิน 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วม ขั้นตอนต่อไปจะแจ้งไปยัง กกต. อย่างไรก็ตาม สถานะทั้ง 21 คน ยังเป็น ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ แต่ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (9)
ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส มีกระแสข่าวว่า จะไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย อันเป็นพรรคในเครือข่ายของพรรคพลังประชารัฐ และทาบทาม ส.ส.จากพรรคต่างๆ มาร่วม อาทิ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 คน และอีก 8 คน จาก 8 พรรคเล็ก ตัดสินใจอยู่กับรัฐบาล มี 1 พรรค 1 เสียง คือ พรรคพลังธรรมใหม่ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการขับ 21 ส.ส.เป็นเรื่องของพรรค ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง เชื่อว่าทุกคนพยายามทำให้สถานการณ์เป็นปกติโดยเร็วที่สุด ตนไม่ได้ว่าใครดีหรือไม่ดี แต่พฤติกรรมจะเป็นตัวกำหนด ให้ประชาชนตรวจสอบ คัดกรอง ไตร่ตรอง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยังไม่ได้การคิดปรับคณะรัฐมนตรี หรือยุบสภา ขณะนี้กฎหมายก็ยังไม่เรียบร้อย จึงอย่าเอาทุกอย่างมาตีทั้งหมด
การขับ 21 ส.ส.เป็นไปตามคำขอของผู้ถูกขับเอง และรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้หาพรรคสังกัดใน 30 วัน ซึ่งคาดว่าเป็นพรรคที่ตระเตรียมไว้ก่อนแล้ว สถานะของพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งยังไม่มีท่าทีชัดเจนว่าจะสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ และอาจมีข้อเรียกร้องขอเก้าอี้รัฐมนตรี จึงไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ที่เหลือเสียงสนับสนุนเพียงปริ่มๆ เป็นห้วงเวลาที่น่าจับตาว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะต้องหา ส.ส.มาอุดรูรั่วในเรือแป๊ะให้ได้ และอาจจะต้องแลกด้วยการปรับ ครม.เกลี่ยเก้าอี้กันใหม่ เป็นสถานการณ์ที่เปราะบางอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลที่มาถึงปีสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว
