ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : อยากฟังดีเบต
ดูเหมือนบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีความฟิตกันทุกคน
ผลการสำรวจของนิด้าโพลล่าสุดบอกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนกรุงเลือกใครนั้นมาจากนโยบาย
รู้สึกดีใจที่ “นโยบาย” เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ
ดังนั้น เพื่อให้นโยบายของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่ละคนกระจายออกไปในวงกว้าง
นับตั้งแต่บัดนี้จึงหวังจะได้ชมได้ฟังการดีเบต
เชิญผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่ผลการสำรวจความนิยมมีดีกรีใกล้เคียงกัน มาฉายภาพนโยบาย เป็นเรื่องๆ
อาทิ การจัดการขยะของเมืองกรุง ที่น่าจะมีวิธีการจัดการได้มากกว่าการเก็บขยะทุกสัปดาห์
บางทีผู้สมัครแต่ละคนจะมีวิธีการอื่นๆ ที่ทำให้คนเมืองกรุงมีส่วนร่วมในการลดขยะ
เรื่องขยะนี้องค์กรท้องถิ่นอย่าง อบต. หรือเทศบาล หรือ อบจ.ทำสำเร็จมากันแล้ว การที่ กทม.จะทำบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ยังมีปัญหาคุณภาพอากาศ อันเกิดจาก PM2.5 ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี
มีเรื่องการจัดการน้ำท่วมที่ต้องจำแนกการแก้ไขทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ในด้านการบริหาร มีเรื่องตั๋วร่วมที่ช่วยให้เกิดความสะดวก เรื่องค่าโดยสารที่มองกันว่าราคาสูง จนเกรงว่าคนกรุงไม่มีกำลังจ่าย เรื่องต่อสัญญาสัมปทาน
เรื่องเหล่านี้ ลำพัง กทม. คงแก้ไขไม่ได้ จำเป็นต้องใช้การบริหารเข้ามาผลักดัน
เชื่อว่าผู้สมัครแต่ละคนล้วนมีความสามารถ แต่ก็อยากฟังว่าจะผลักดันกันอย่างไร
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการศึกษา การให้โอกาสการศึกษา ให้โอกาสการพัฒนาเด็กและเยาวชน การส่งเสริมการอ่าน และอื่นๆ ก็ยังเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ
ยังมีนโยบายทางงบประมาณ ที่เสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดการใช้งบ 5 เปอร์เซ็นต์ของ กทม.
และยังมีนโยบายอื่นๆ อีก ซึ่งที่ผ่านมาบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งได้เดินสายบอกกล่าวให้ประชาชนรับทราบ
พร้อมกันนั้นยังเผยแพร่ทางออนไลน์ ทางแผ่นป้าย ทางเอกสาร และผ่านทางบทสัมภาษณ์ผ่านทางสื่อ
แต่การดีเบตยังไม่แพร่หลายนัก
ขณะที่การดีเบตจะทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีโอกาสนำเสนอนโยบายตัวเอง ต่อหน้าผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนอื่น
ความจริงเรื่องดีเบตนโยบายหาเสียง มีทำกันมาทุกการเลือกตั้ง
แต่เนื่องจากความพร้อมของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้มีสูงมาก การได้ฟังดีเบตกันแต่เนิ่นๆ จะทำให้ประชาชนทำความเข้าใจได้ครบถ้วนและทั่วถึง
การได้ฟังอะไรที่สร้างสรรค์เมืองจากปากคนที่ตั้งใจอาสาจะเป็นผู้ลงไปทำให้ได้ตามที่สัญญา มันช่วยให้คนกรุงมีความหวัง
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า ดีเบตครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟังไม่ว่าเขาจะเป็นคนกรุงเทพฯ หรือไม่ใช่
เพราะคนที่เป็นผู้สมัครล้วนมีศักยภาพสูง บางคนเป็นอาจารย์ บางคนมีแนวคิดพัฒนาเมือง บางคนเคยดำรงตำแหน่งมาแล้ว บางคนคลุกคลีกับชาวกรุงจนรับทราบความต้องการ
ยิ่งไปกว่านั้น คือ แนวคิดการพัฒนาเมือง ไม่ได้จำกัดเฉพาะเมืองกรุงเท่านั้น หากผู้บริหารเมืองใหญ่มีโอกาสได้ฟัง แล้วนำไปปรับใช้ ย่อมมีประโยชน์
ดังนั้น ช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมก่อนวันเลือกตั้ง จึงคาดหวัง
อยากได้ฟังการดีเบต เพื่อให้ทุกนโยบายชัดเจนและชัดแจ้ง ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 22 พฤษภาคม
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]