การเมืองหลังเลือกตั้งกทม. โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันเดียวกันนี้ยังเป็นวันที่พระราชกฤษฎีกาประกาศเริ่มต้นเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปี 2565 แต่การประชุมจริงจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นอีกไม่กี่วัน

คำถามที่คอการเมืองต้องการติดตามหาคำตอบ คงไม่ใช่แค่ว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะปรากฏออกมาอย่างไร ใครจะเป็นผู้ชนะ แต่เลยไปถึงความเป็นไปทางการเมืองต่อจากนั้น

เป็นต้นว่า การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะส่งผลต่อการเลือกตั้งทั่วไปในระดับประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแค่ไหน อย่างช้าสุดภายใน 45 วันหลังจากสภาผู้แทนราษฎรครบวาระ 4 ปี เดือนมีนาคม 2566 นับจากเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายวันที่ 26 มีนาคม 2562

หากเป็นไปตามปฏิทินการเมืองข้างต้น นั่นหมายความว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ แต่หากเกิดอุบัติเหตุต้องตัดสินใจยุบสภาเสียก่อน การเลือกตั้งทั่วไปก็จะร่นเวลาเข้ามาอีก เป็นภายในสิ้นปี 2565 หรือต้นปี 2566

Advertisement

แล้วผลการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะเกี่ยวอะไรกับการเลือกตั้งทั่วไปที่ว่า เกี่ยวโดยตรงทีเดียวเลยครับ

หากผลการเลือกตั้งเป็นไปตามความคาดหมาย โพลสำรวจความเห็นประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง เชื่อว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 จะได้รับชัยชนะ

ถึงแม้ว่านายชัชชาติจะประกาศลงสมัครอิสระ แต่ในความเป็นจริงมีพันธมิตรเป็นพรรคฝ่ายค้าน เพื่อไทยและพรรคอื่นๆ ไม่รวมพรรคก้าวไกลที่ส่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หมายเลข 1 ลงเป็นคู่แข่ง ซึ่งคงตัดคะแนนเสียงกันเองลงระดับหนึ่ง

Advertisement

ขณะที่ผู้สมัครคนอื่นๆ ทั้งอิสระและในนามพรรคก็ตกอยู่ในสภาพตัดคะแนนกันเองเช่นกัน

ฉะนั้น โอกาสที่นายชัชชาติเป็นต่อยังมีมาก ที่สำคัญเปิดตัวทำการบ้านลงพื้นที่ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน

ชัยชนะของนายชัชชาติจะทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านคึกคัก ฮึกเหิมขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง และจะเป็นปัจจัยทำให้การเมืองระดับชาติเข้มข้นมากขึ้นหลังเปิดสภาอย่างแน่นอน

การประชุมรัฐสภามีวาระสำคัญที่จะทำให้การเมืองร้อนแรงรอรับอยู่แล้ว ทั้งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และว่าด้วยพรรคการเมือง, ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว., ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 และญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะ ฯลฯ

วาระหลักๆ เหล่านี้เป็นชนวนอย่างดีทำให้การเมืองในสภาเข้มข้น เพิ่มแรงกดดันต่อเสียงเรียกร้องที่มีมาเป็นระยะ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภา หรือไม่ก็พิจารณาตัวเองลาออก

ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นไปตรงกันข้าม นอกจากยืนยันว่ายังไม่คิดยุบสภาแล้ว จะขออยู่สู้ต่อไปจนครบวาระมีนาคม 2566 ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากเช่นกัน เหตุเพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังเกาะกันแน่น สามารถคุมคะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้มากกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขณะที่ในรัฐสภา วุฒิสมาชิกส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปอย่างมั่นคง

ทำให้อำนาจต่อรองของ พล.อ.ประยุทธ์ยังมีอยู่เหนือพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา และประชาธิปัตย์ ซึ่งสถานการณ์ภายในล่าสุด กำลังระส่ำระสายจากกรณีรองหัวหน้าพรรคตกเป็นคดีอื้อฉาว

ทุกพรรคร่วมรัฐบาลยังต้องอาศัยอำนาจและบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเกาะเกี่ยวความเป็นรัฐบาลต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

สถานการณ์แวดล้อมที่ว่า ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสสู้ต่อไปได้จนถึงครบเทอม ยกเว้นประชาธิปัตย์แพแตกถึงขั้นต้องเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่

ประเด็นที่น่าสนใจติดตาม จึงหนีไม่พ้น พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของตัวเองต่อไปอย่างไร ระหว่างขอหยุดเพียงเท่านี้ กับขอไปต่ออีกสมัย

หากเป็นประการหลัง ยังไม่หยุดความพยายามที่จะต่อท่ออำนาจไปอีก จะทำให้สถานการณ์การเมืองตึงเครียดขึ้นทันที

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งทั่วไปจะปรากฏออกมารูปใด พรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ฝ่ายใดจะได้คะแนนเสียงมากกว่า ชนะขาดหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกเช่นกัน ก็คือการเปิดตัวของพรรคสร้างอนาคตไทย และเปิดชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

ภาษิตทางการเมืองมีว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรก็ตาม แต่ปูมหลังหรือความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลก็มีอิทธิพลไม่น้อยต่อความเป็นไปทางการเมืองไทย

ต้องไม่ลืมว่า เมื่อตอนที่รัฐมนตรี 4 กุมารทีมงานนายสมคิดถูกแกนนำพลังประชารัฐเล่นการเมืองจนต้องยกทีมลาออก พล.อ.ประยุทธ์ถูกกดดันหนัก ส่งไลน์ส่วนตัวถึงนายสมคิดว่า “รู้สึกลำบากใจ รู้สึกแย่ ไม่รู้จะพูดต่อหน้าอย่างไร”

“ยังไง อาจารย์ก็อย่าทิ้งผมไป ขอให้อยู่ข้างหลังผมด้วย”

ความสัมพันธ์ทั้งทางส่วนตัวและทางใจของทั้งสองยังแนบแน่น จึงไม่แน่ว่าโอกาสสลับที่ยืน นายสมคิดมาอยู่เบื้องหน้า พล.อ.ประยุทธ์อยู่เบื้องหลัง อาจจะเกิดขึ้นได้

ใครจะตอบได้ นอกจากคนสองคนที่ยังมีใจต่อกันมาถึงวันนี้ เวทีการเมืองระดับชาติกำลังดำเนินไปอย่างน่าจับตา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image