ภาพเก่าเล่าตำนาน : เมื่อหนู…ขอสู้แมว…ในเมืองใหญ่ โดย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

เมืองใหญ่ในโลก คนเยอะ…ต้องเผชิญกับ “กองทัพหนู” ในอเมริกา ยุโรป ที่ว่าเจริญแล้ว…นั่นแหละ คือ รังหนูขนาดยักษ์

หนู…ชอบอาศัยอยู่ในที่สกปรก ชื้นแฉะ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค… มันปรับตัวได้ดี กองขยะ เศษอาหาร น้ำเน่า คือ สวรรค์

ที่มีความสุขที่สุด คือ ในบ้านของมนุษย์ เพราะมีอาหารอุดม

มันกัด แทะ ทำลายสิ่งของทุกชนิด ย่ำยีหัวใจให้เจ็บปวด

Advertisement

ทุกสิ่งในตัวหนู ฟัน น้ำลาย ฉี่ เห็บ หมัดที่เกาะอยู่บนตัวหนู เป็นพาหะของโรค เช่น โรคฉี่หนู โรคไข้หนูกัด และโรคติดเชื้อสารพัด

บางโรคอาจทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

เป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ สร้างปัญหาให้มนุษย์และสัตว์อื่น

“โรคฉี่หนู” เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เลปโตสไปรา (Leptospira) สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับคนและสัตว์ โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นพาหะนำโรค เช่น วัว ควาย ม้า สุนัข และหนู

น้ำ ดิน หรืออาหาร ที่ปนเปื้อนปัสสาวะของสัตว์ติดเชื้อ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะมีอาการป่วยแตกต่างกัน มีไข้ ปวดหัว หนาวสั่น ปวดตามกล้ามเนื้อ อาเจียน ตัวเหลือง ตาแดง ปวดท้อง ท้องเสีย มีผื่นขึ้นตามร่างกาย

ผู้ติดเชื้อจากโรคฉี่หนูที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจมีอาการรุนแรงขึ้นจนทำให้ตับและไตเกิดความเสียหาย ตับวาย หายใจลำบาก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ช่วงหนึ่ง..บันทึกไว้อย่างน่าสมเพช

พ.ศ.2208-2209 (ตรงกับรัชสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) มหานครลอนดอน ประสบภัยพิบัติร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตแบบใบไม้ร่วง มันคือหายนะของชาติ เรียกกันว่า Black Death มีหนูพลุกพล่าน (ในเวลานั้นยังไม่ทราบว่าความตายดังกล่าวเกิดจากอะไร) มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4 หมื่นคน

ชาวลอนดอนอพยพหนีไปอยู่ในชนบท หนีความตาย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ที่แน่นอนที่สุด คือ เวลานั้น มหานครลอนดอนสกปรก เต็มไปด้วยกองขยะ น้ำเน่า แออัด อากาศเป็นพิษ

แม่น้ำเทมส์ที่สวยใส ทอดตัวผ่านกรุงลอนดอนยังเน่าเหม็น

ผู้ว่าการนครลอนดอน ต้องรื้อระบบสาธารณูปโภคในเมืองใหม่ วางระบบระบายน้ำ แทบจะต้องรื้อเมือง… สร้างใหม่…

แต่ก็คุ้มค่าเงินและเวลา แก้ปัญหาเรื่องหนูได้ในระดับหนึ่ง

ลองไปดูในอเมริกาบ้างครับ…

เมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกาก็เจอ “กองทัพหนู” เช่นกัน

หนู…กัดกินอาหาร กัดกล่อง ถุง อาหาร กัดหนังสือ ทำลายทุกอย่างที่ขบ กัด แทะได้…

เมืองซีแอตเทิล อยู่ในอันดับเมืองต้นๆ ที่มีปัญหาหนูตัวใหญ่ มีการพบเห็นหนูจำนวนมหาศาลแบบน่าสะอิดสะเอียน

ในเวลาเดียวกัน ธุรกิจรับ “กำจัดหนู” ก็ทำเงินได้งามไม่แพ้กัน

ชาวเมืองซีแอตเทิลกลุ่มหนึ่งที่โกรธแค้น เคยนัดแนะกันออกมาล่าหนูในตอนกลางคืน ต่อเนื่องเป็นอาทิตย์ โดยใช้ปืนอัดลมแข่งกันล่าตามกองขยะ บนถนน แบบเอาจริงเอาจัง …เป็นเรื่องเล่าเฮฮากัน

การล่าหนูด้วยแมว…ไม่ได้ผล เพราะหนูตัวใหญ่มาก

เคยมีการนำ “แมวมาล่าหนู” …หากแต่แมวก็ฉลาดพอ รู้ว่า… “ใครใหญ่”

ชาวเมืองต่างรู้ดีว่า เพราะเศษขยะ เศษอาหารที่อุดมสมบูรณ์ที่ทิ้งระเกะระกะ เป็นตัวกวักมือเรียกหนู

นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า…ปัญหาหนูทวีความรุนแรงมากขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำนวนชาวเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเมืองนี้ เศษขยะ เศษอาหาร เกลื่อนไปหมด

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ..ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน

“ฤดูร้อน มันยาวนานขึ้น และฤดูหนาวก็ไม่หนาวมากนัก ดังนั้น พวกมันกำลังมีลูกมากขึ้นเรื่อยๆ”

หนูตัวเมียสามารถมีลูกได้มากถึง 150 ตัวในแต่ละปี การตั้งครรภ์ใช้เวลาเพียง 21 วัน และสามารถตั้งครรภ์ได้ 1 วัน หลังจากคลอด

เมื่ออุณหภูมิลดลง (หน้าหนาว) หนูจะหยุดผสมพันธุ์และมุ่งไปที่การดำรงชีพ …พบว่า…

“ถ้าอากาศอุ่นขึ้น กองทัพหนูที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว…พวกมันก็จะขยายพันธุ์มากขึ้นไปอีก”

ลองมาดู 5 อันดับเมืองที่มีหนูชุกชุมที่สุด….ข้อมูลจาก (Pointe Pest Control)

อันดับ 5 ในอินเดีย:

วัดการ์นีมาธา (Karni Mata) จะพบหนูยั้วเยี้ย วิ่งไปรอบๆ พื้นวัด ทุกตารางฟุตมีหนู กัดกินเศษดอกไม้ อาหาร แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรกับหนู เพราะที่นี่เป็นที่เคารพสักการะ

อันดับ 4 ปารีส ฝรั่งเศส:

หนูเป็นพาหะนำโรคร้ายคุกคามชีวิต ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีไปกว่าชาวปารีส ในช่วงที่เกิดกาฬโรคระบาดในศตวรรษที่ 14 ครึ่งหนึ่งของผู้คนที่อาศัยอยู่ในปารีสต้องตาย หนูจำนวนมากซุ่มซ่อนอยู่ทั่วปารีส

อันดับที่ 3 ลอนดอน ประเทศอังกฤษ:

ถึงบ้านมีขนาดเล็กแค่ไหน…หนูสามารถบีบตัวของมันเข้าไปได้ ชาวลอนดอนต้องขยันอุดรูทุกแห่ง ถ้าคุณไม่ทำ…คุณก็จะได้ทานอาหารเย็นกับหนู

ท่อระบายน้ำทั้งหมดที่วิ่งอยู่ใต้ถนนในลอนดอน มีนักวิชาการคำนวณเล่นๆ ว่า น่าจะมีหนู 7.5 ล้านตัว หนูเหล่านี้ …เรียกลอนดอนว่า “บ้านของฉัน”

อันดับที่ 2 ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา:

เมืองที่มีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ โดยเฉพาะชาวเอเชียนับล้านคน มีปัญหาเรื่องขยะ คนไร้บ้าน ปัญหาอาชญากรรม ชาวเมืองแทบจะสิ้นหวังเรื่องการจัดการขยะ ชาวเมืองต้องทำสงครามกับหนู เพื่อควบคุมหนูในบ้านตัวเอง ต้องปิดถังขยะและอย่าทิ้งขยะ

อันดับที่ 1 ชิคาโก สหรัฐอเมริกา:

มีกองทัพหนูเข้มแข็ง ทั้งจำนวน และความร้ายกาจ

ชิคาโกขึ้นอันดับ 1 รายชื่อเมืองที่มีผู้ดื่มกินมากที่สุด

ร้านอาหารในอเมริกา จะมีกฎระเบียบที่ตึงเป๊ะ เรื่องความสะอาดของสถานที่ อุณหภูมิในตู้เก็บอาหาร น้ำร้อนล้างจานชาม

คนไทยที่ไปประกอบอาชีพร้านอาหารในอเมริกาทราบดีว่า ในการตรวจของหน่วยงาน ถ้ามีแมลงสาบ มีการทิ้งขยะ เศษอาหารไม่เป็นไปตามข้อกำหนด โทษ คือ ต้องปิดร้าน นานแค่ไหน เป็นไปตามกฎ

ลองนึกภาพว่า…ถ้ามี “หนูหิวแสง” มาโผล่ในร้าน ขณะลูกค้าที่นั่งทานอาหารจะเกิดอะไรขึ้น…และเจ้าของร้านจะระทมแค่ไหน

นิวยอร์กซิตี้ ชิคาโก ลอสแอนเจลิส ทั้ง 3 เมืองนี้จัดอยู่ในกลุ่มเมืองที่มีสัตว์ฟันแทะมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

“หนูนอร์เวย์” เป็นหนูสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในเมืองต่างๆ ของสหรัฐ ทั่วเกาะแมนฮัตตัน ตัวใหญ่ มีน้ำหนักเกิน 600 กรัม มันเป็นสัตว์ประหลาดมากกว่าเป็นหนู

หนูนอร์เวย์ไม่ได้มาจากนอร์เวย์ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนตั้งชื่อ แต่ชาวนอร์เวย์ยืนยันว่า นอร์เวย์มิใช่แหล่งกำเนิด แถมยังเคืองอีกต่างหาก

เรื่อง “แมวปราบหนู” …กำลังกลายเป็น “ตำนาน”

แมว คือ เครื่องจักรสังหารหนู เป็นนักล่าหนูที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ถ้าแมวต้องการจะฆ่าหนู มันก็สามารถทำได้เกือบทุกครั้ง

หากแต่ในบางพื้นที่ หนูเจริญพันธุ์ ตัวใหญ่จัด

มีบทความทางวิชาการเปิดเผยว่า …แมวไม่เหมาะกับหนูในนครนิวยอร์ก… หนูตัวใหญ่เกินไปและดุร้ายเกินไปสำหรับแมว

กลุ่มนักวิจัยใช้แมวจรจัด 5 ตัวต่อประชากรหนูในสถานจัดการขยะเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน นักวิจัยได้ถ่ายวิดีโอ 306 รายการ

มีแมวอย่างน้อย 3 ตัว ที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้หนูทุกวัน แมวสะกดรอยตามหนู 20 ครั้ง…แมวพยายามจะฆ่าหนูเพียง 3 ครั้ง และแมวสามารถฆ่าหนูได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานว่า “กลิ่น” ของแมวสามารถลดความสามารถในการสืบพันธุ์ของหนูได้

หนูบนเรือ…เรื่องที่น่าสยอง

ผู้เขียนเคยได้คุยกับ พี่ๆ น้องๆ ทหารเรือ เรื่องที่นึกไม่ถึงคือ บนเรือรบ ก็อาจจะพบหนูได้ มันคือวายร้ายที่จะทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กัดกินของใช้ อาหาร

หนูจะไต่ไปตามเชือกที่ผูกโยงเรือกับเสาบนฝั่ง

มีคำศัพท์เรียก…ship’s cat หรือ “แมวบนเรือ”…

ตั้งแต่สมัยโบราณ มีการนำแมวขึ้นเรือ ด้วยเหตุผลหลายประการ ที่สำคัญที่สุดคือเพื่อควบคุมหนู หนูบนเรือทำให้เชือก ไม้ ผ้าใบ เสียหาย

หนู…ยังทำลายสินค้าบนเรือ กินอาหารของลูกเรือ และสามารถสร้างความเสียหายกับสินค้าของเรือได้ เช่น เมล็ดพืช

มันจะเป็นแหล่งของโรคร้าย ซึ่งเป็นอันตรายต่อเรือที่อยู่ในทะเลเป็นเวลานาน “หมัดหนู” เป็นพาหะของโรคระบาดและเชื่อกันว่าหนูบนเรือเป็นพาหะหลักของกาฬโรค

เรือบางลำ ตั้งใจเลี้ยงแมวให้ล่าหนู ซึ่งก็ได้ผลเฉียบขาด แมวจะถูกเอาใจ ถูกเลี้ยงดูอย่างดี เพราะมีคุณค่าดั่งผู้วิเศษในการจับหนูบนเรือ …แมวยังเป็นเพื่อนที่น่ารัก เล่นกับลูกเรือทั้งหลายที่รอนแรมในทะเลนานนับเดือน

รถยนต์ที่จอดในบ้าน เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ชำรุดเสียหาย มาจากหนูกัดแทะก็เป็นเรื่องน่ารำคาญ เสียทรัพย์

การกำจัดหนู และควบคุมการแพร่เชื้อ

คำตอบแบบกำปั้นทุบดินครับ…ดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม กำจัดกองขยะ เศษอาหาร ฯลฯ

ผู้เขียนขออ้างอิงข้อมูลจาก รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในบทสนทนากับทีมนิวมีเดีย พีพีทีวี เมื่อ 14 มิ.ย.61

อาจารย์บอกว่า… เป็นภาพจำว่าแมวต้องกินหนู ไล่จับหนู แต่แท้จริงแมวเป็นสัตว์เลี้ยง แมวจำนวนมากที่อยู่ในบ้านคนจะคุ้นเคยกับการถูกเลี้ยงด้วยอาหารเม็ด หรืออาหารทั่วๆ ไป ก็อาจไม่คุ้นชินกับการไล่จับหนู

แต่ถ้าเทียบกับเป็น “แมวจรจัด” ก็อาจชำนาญกว่าเพราะแมวมีพฤติกรรมที่อยากจะเล่นกับหนู จิ้งจก แมลงสาบ แต่การเล่นนั้นไม่ใช่สถานการณ์ที่จะไล่ล่าให้หมด

นอกจากแมวแล้วการกำจัดหนูในกรุงเทพมหานครยังมี “งู” ด้วย

…ซึ่งการที่ปริมาณหนูเพิ่มขึ้น ก็ทำให้งูเพิ่มขึ้นด้วยโดยเฉพาะงูเหลือม โดยข้อมูลจากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า …งูเหลือมจะตามกลิ่นหนูมาอยู่ตามบ้านเรือนและทุกที่ที่มีหนู อยู่ที่ไหนมีหนูมากที่นั่นก็มีงูมากเช่นกัน เหมือนกับว่า งูในสมัยนี้มาทำหน้าที่กำจัดหนูแทนแมว

ปริมาณของงูในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีค่อนข้างเยอะและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะปริมาณของหนูที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นอาหารหลักของงู

แต่จำนวนก็ยังน้อยมากเมื่อเทียบจำนวนที่จะไปกินหนู เนื่องจากหนูเป็นสัตว์ที่มีอัตราการเกิดเร็วมากเมื่อเทียบกับอัตราการเกิดของงู ดังนั้น คงไม่ใช่แนวทางในการแก้ปัญหาที่จะให้งูมาจับหนู

เพราะการที่หนูมีปริมาณเพิ่มขึ้น ก็เป็นไปตามระบบนิเวศคือมีอาหารที่สมบูรณ์ซึ่งอาหารนั้นก็เกิดจากพฤติกรรมการกินทิ้งขว้างของคน….

เป็นการอธิบายแบบเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาดี…

จะคุยเรื่อง “หนู” เลยแถมเรื่อง “งู” เพิ่มมาให้สยองอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image