กลายเป็นหัวข้อทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปเลย กระทู้ถามสดด้วยวาจาของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ส่งยื่นคำถามกันตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนการประชุมสภา ถามถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยตอบ
แต่นายกฯแจ้งว่า ติดภารกิจสำคัญ ก่อนที่ต่อมากระทู้สดนี้จะล่องลอย เพราะ รมว.คลังและ รมช.คลังที่ถูกส่งให้มาตอบแทนเป็นทอดๆ ก็ไม่มา อ้างเหตุผลเหมือนนายกฯ
สุชาติ ตันเจริญ ประธานในที่ประชุมสภา เข้าใจถึงการทำหน้าที่ของผู้ตั้งกระทู้ และเข้าใจดีว่านายกฯมีสิทธิส่งรัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน แต่ที่ติงกันแรง ก็เพราะคนที่ได้รับมอบหมายไม่มาตอบ
ที่ผ่านมา นายกฯมักจะมอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาตอบหรืออธิบายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหมทุกครั้ง พล.อ.ชัยชาญก็ทำหน้าที่ไม่มีบกพร่อง เมื่อถามมาก็เตรียมข้อมูลตอบไป
ส่วนที่เกิดวาทะร้อนๆ ที่ว่า “ขอกำชับว่าการมอบหมายอย่าสั่งเหมือนทหาร คือสั่งไปแล้วถือว่าจบกันแบบนั้นไม่ใช่ แต่ขอให้สั่งเหมือนนักการเมืองต้องสอบถามกันหน่อยว่าว่างหรือไม่ ตอบได้หรือไม่ แบบนี้ไม่เรียกว่ามอบหมาย เพราะมอบหมายแล้วไม่มาตอบถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ”
นี่เป็นคาแร็กเตอร์ของรองประธานสภาคนที่ 1 ในฐานะนักการเมืองรุ่นเก๋าคนหนึ่ง พูดตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม
เมื่อช่วง 3 กุมภาพันธ์ 2565 พัฒนา สัพโส ส.ส.เพื่อไทย ยื่นกระทู้ถามสดเกี่ยวกับปมการคัดเลือกพนักงานส่วนท้องถิ่น ให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาตอบ แต่มอบหมายให้ รมช.ตอบแทน ก็แจ้งว่าติดภารกิจ ครั้งนั้น สุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานในที่ประชุมสภา เห็นด้วยกับ ส.ส. และก็พูดแรงๆ ตามสไตล์ว่า “ขอสอนมวยหน่อยในฐานะรัฐมนตรีเก่า เวลาจะมอบหมายใคร ให้มอบคนที่ว่าง อย่าอ้างว่า มอบไปแล้วแต่ไม่ว่าง”
ก่อนที่อีกสัปดาห์ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ได้เข้าชี้แจง ถึงเหตุผลที่ไม่มาตอบ ยืนยันว่า มีกระทู้ถามมาก็จะพยายามไปตอบด้วยตัวเองทุกครั้ง
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ก็ให้สัมภาษณ์ชี้แจงเหตุผล และยืนยันว่า นายกฯสามารถมอบหมายให้ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงไปตอบแทนได้ ตัวนายกฯตอบได้เฉพาะกรอบกว้างๆ หรือแนวทางในการปฏิบัติ แต่ในเรื่องของรายละเอียดเป็นเรื่องของแต่ละกระทรวงที่รู้รายละเอียดดี ก่อนจะยืนยันว่าให้เกียรติสภาเสมอ ไม่มีปัญหา
ส่วนที่สุชาติพูดหนักๆ ในสภานั้น พล.อ.ประยุทธ์พูดทิ้งไว้ว่า “ก็คิดกันเอาเอง”
สำหรับชีวิตการเมืองของ สุชาติ ตันเจริญ ถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร คลุกกับแวดวงการเมืองมาเกือบทั้งชีวิต จึงมีความเข้าใจหัวอกของ ส.ส.ด้วยกันอย่างมาก เมื่อ ส.ส.เข้ามานั่งในสภาก็หมายถึงการทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับประชาชน
การที่ออกมาพูดแรงๆ ผ่านไมโครโฟน ก็ไม่ได้มีอคติหรือบาดหมางใดๆ แต่ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุมสภา ที่ต้องใช้ความเด็ดขาดในการเข้าใจสถานการณ์ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหา ให้สภาเดินหน้า
ต่อไปได้
ดังนั้น เมื่อมีกระทู้ถามสดไปยังนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่รับผิดชอบโดยตรง หากมาตอบด้วยตัวเอง จะทำให้เกิดความร่วมมือในการแก้ปัญหาได้เร็วยิ่งขึ้น มากกว่าที่บางครั้งการมอบหมายให้ตัวแทนมาตอบแทน ก็จะถูกมองและตีความเป็นอย่างอื่นได้เช่นกัน
อีกทั้งการขึ้นตอบในสภาเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนที่เฝ้าชมหรือติดตามข่าวก็อยากจะเห็นนายกฯมาเป็นผู้ตอบ ส่วนจะได้เห็นนายกฯตอบกระทู้ถามสดของฝ่ายค้านในครั้งหน้าหรือไม่ ต้องติดตามกัน หรืออาจจะส่งรัฐมนตรีตัวแทนมาตอบแทนอีก ขณะที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล คงจะยื่นกระทู้ถามสดด้วยวาจาอีกครั้ง เพราะปัญหากำลังรอการแก้ไข อยากให้ผู้มาตอบช่วยให้ความสำคัญเหมือนกับภารกิจอื่นๆ นอกสภาเช่นกัน
