สะพานแห่งกาลเวลา : อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น โดย ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์

(ภาพ Instagram)

ภาพที่นำลงตีพิมพ์ประกอบในสัปดาห์นี้มาจากบัญชีอินสตาแกรมของ โคโยตี ปีเตอร์สัน (coyotepeterson) ที่สร้างความฮือฮาอย่างกว้างขวางเมื่อ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อปีเตอร์สันโพสต์ทั้งในบัญชีไอจีและทวิตเตอร์ของตัวเอง อ้างว่า พบซากโครงกระดูกดังกล่าวนี้ในป่าสงวนแห่งหนึ่งในแคว้นบริติช โคลัมเบีย ของประเทศแคนาดา

ที่ฮือฮากันนั้นเป็นเพราะ ปีเตอร์สันอ้างว่านี่คือ “กระโหลก” ของ “ไพรเมตขนาดใหญ่” ซึ่งไม่เคยมีใครพบกันมาก่อนในพื้นที่บริเวณ ตะวันตกเฉียงเหนือ ของทวีปอเมริกาเหนือ

“ไพรเมต” คือสิ่งมีชีวิตที่ยืนสองขาคล้ายคน (ซึ่งรวมตั้งแต่ชิมแปนซีไปจนถึงกอริลลา เรื่อยไปจนถึง “มนุษย์” และสิ่งมีชีวิตที่อ้างกันว่าอยู่ในป่า แต่ไม่เคยมีหลักฐานบ่งชี้จริงจังอย่าง “บิ๊กฟุต”) ซึ่งในเวลานี้ ไม่เคยปรากฏว่ามีไพรเมตชนิดใดๆ ใช้ชีวิตอยู่ในทวีปอเมริกาเหนืออีกเลย นอกเหนือจากมนุษย์

เท่ากับเป็นการบอกกลายๆ ว่า การค้นพบครั้งนี้ของปีเตอร์สันเป็นการค้นพบ “หลักฐานใหม่” ครั้ง “ยิ่งใหญ่” นั่นเอง

Advertisement

จะเป็นข้อเท็จจริงหรือเจตนาจะให้ฮือฮามากยิ่งขึ้นไปอีกก็ไม่รู้ ปีเตอร์สันอ้างว่าเขาจำเป็นต้อง “ซ่อน” กระโหลกนี้เอาไว้นานหลายสัปดาห์มาแล้ว “จากเจ้าหน้าที่รัฐและคนอื่นๆ” ที่ไม่ต้องการให้บันทึกการค้นพบครั้งนี้ถูกเผยแพร่

“ผมแน่ใจว่าภาพเหล่านี้จะต้องปลิวไปในไม่นาน รวมถึงวิดีโอด้วย โดยฝีมือของรัฐบาลหรือไม่ก็เจ้าหน้าที่ป่าสงวน แต่ขอยืนยันว่าตัวกระโหลกจริงๆ นั้นปลอดภัย”

ทำทีว่าเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนเสียเต็มประดา

Advertisement

โคโยตี ปีเตอร์สัน เป็นยูทูบเบอร์ชาวอเมริกันครับ เดิมเคยโด่งดังจากการเป็นพิธีกรรายการทางโทรทัศน์ชุด “Coyote Peterson: Brave the Wild” ของ Animal Planet ปัจจุบันหันมาเปิดช่องยูทูบของตัวเอง ใช้ชื่อช่องว่า “Brave Wilderness”

ปีเตอร์สันบอกว่า จะนำเอาเทปบันทึกภาพการขุดค้นและการพบกระโหลกปริศนานี้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

แต่ยังไม่ทันมีการเผยแพร่ นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ และปักใจมั่นว่า กระโหลกไพรเมตขนาดใหญ่ที่ว่านี้ เป็น “ของปลอม” ที่จัดฉากกันขึ้นเสียมากกว่า

วัตถุประสงค์ก็ไม่ใช่อะไร แค่ต้องการให้คนคลิกเข้าไปดูกันเยอะๆ เพื่อหวังรายได้เท่านั้นเอง

หวัง อี้หนาน นักวิจัยหลังปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ซึ่งเป็นนักธรณีวิทยาที่เชี่ยวชาญทางด้านบรรพชีวินวิทยา และเป็นเจ้าของหนังสือตำราเกี่ยวกับแหล่งฟอสซิลในอเมริกาเหนือ ก็โพสต์ในทวิตเตอร์ แสดงความเชื่อว่า การค้นพบของปีเตอร์สันเป็น “ของปลอม” เสียมากกว่าอย่างอื่น

เขาตั้งข้อสังเกตว่า กระโหลกที่ปีเตอร์สันอ้างว่า “ขุดค้นพบ” นั้น เหมือนกันมากกับกระโหลกของ กอริลลา ที่มีโพสต์ขายกันอยู่ใน “อาลีเอ็กซเพรสส์” แถมยังนำภาพมาโพสต์คู่กันไว้ในทวิตเตอร์ ดูแล้วก็แทบจะเป็นแบบเดียวกันเลยทีเดียว

ดาร์เรน เนช นักบรรพชีวินวิทยา และผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ในอังกฤษ ก็ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบเชิงสรีระและขอให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนพิจารณาแล้ว ทุกคนยืนยันว่ากระโหลกของปีเตอร์สันก็คือ กระโหลกกอริลลานั่นแหละ แล้วก็แทบจะเป็นฝาแฝดกับกระโหลกกอริลลาที่มีขายกันอยู่ด้วยอีกต่างหาก

เนชยืนยันว่า เลิกคิดไปได้เลยว่ามันจะเป็นหลักฐานแสดงถึงไพรเมตชนิดใหม่ แต่เป็นกระโหลกของไพรเมตที่โลกรู้จักกันดีอยู่แล้วเท่านั้น

โจนาธาน โคลบี้ ที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของเนชันแนล จีออกราฟิก และเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการค้าสัตว์ป่า เตือนปีเตอร์สันเอาไว้ด้วยว่า พฤติกรรมที่เขาอ้างว่าได้กระทำลงไปนั้น อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายทั้งของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ถึงแม้ว่าจะเป็นกระโหลกของไพรเมตชนิดใหม่จริงๆ ก็ตาม

ในแคนาดา การไปพบและนำอะไรก็ตามออกมาจากพื้นที่ป่าสงวนหรือวนอุทยาน ต้องแจ้งขออนุญาตต่อทางการครับ

ขณะเดียวกัน การลักลอบนำซากโครงกระดูกใดๆ ข้ามแดนจากแคนาดามาสหรัฐอเมริกา ก็ผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน

ยิ่งพยายามปั้นแต่งให้ลึกๆ ลับๆ ยิ่งชวนให้น่าสงสัยเคลือบแคลง

ดาร์เรน เนชยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า มีคนบอกว่าปีเตอร์สันไม่ได้ทำอย่างนี้เป็นครั้งแรก แต่บ่อยครั้งที่ทำให้เรื่องดูตื่นตาตื่นใจอย่างไร้เหตุผลเพื่อหวังยอดเข้าชม

ซึ่งไม่เป็นผลดีใดๆ ต่อวิทยาศาสตร์ และมีแต่จะทำลายวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงมากขึ้นไปอีก

ผมนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อที่จะบอกว่า วิทยาศาสตร์นั้น ช่วยสร้างความกระจ่างแจ้งมากกว่าจะชวนให้เกิดความลึกลับ และสามารถพิสูจน์ได้ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ

เหตุผลอีกอย่างก็คือ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงบรรดาเรื่องราวร่องรอยพญานาคทั้งหลาย ที่นำมาเล่นกันเกร่อในบ้านเรา

เป็นอีหรอบเดียวกันไม่ผิดเพี้ยนทีเดียวเชียว!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image