บทนำ : ผลซ่อม‘ลำปาง’
เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจ เมื่อพรรคในขั้วรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำด้วยช่องว่างคะแนนที่สูง ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางเขต 4 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ จ.ลำปาง อย่างไม่เป็นทางการ ผู้สมัครหมายเลข 1 นายเดชทวี ศรีวิชัย ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 4 พรรคเสรีรวมไทย มีคะแนนนำ และชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ 55,638 คะแนน ทิ้งห่างผู้สมัครหมายเลข 3 นายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 3 พรรคเศรษฐกิจไทย จำนวน 30,451 คะแนน โดยนายวัฒนา เป็นอดีต ส.ส.เดิมในเขตนี้ เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครหมายเลข 2 นายพลพงศ์ พงษ์สุพัฒน์ พรรคพลังสังคมใหม่ ได้ 2,882 คะแนน คะแนนของ นายเดชทวี ชนะนายวัฒนาทั้ง 5 อำเภอตอนใต้ของ จ.ลำปาง ในเขตเลือกตั้งนี้ ประกอบด้วย อ.เสริมงาม, เกาะคา, สบปราบ, เถิน และแม่พริก ผู้มาใช้สิทธิประมาณ 60%
สำหรับที่มาของการเลือกตั้งในเขตนี้ เนื่องจาก นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ส.ส. ลำปาง พรรคเพื่อไทย ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2563 ในการเลือกตั้งซ่อม เมื่อ 20 มิ.ย. 2563 นายวัฒนา สิทธิวัง ขณะนั้นสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้ 61,914 คะแนน ต่อมา กกต.แจกใบเหลือง พร้อมกับสอบสวนกรณีมีการให้ประโยชน์กับบุคคล ต่อมาศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยนายวัฒนาลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ได้ เนื่องจากไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ก่อนย้ายเข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย และพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว
น่าสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคที่แตกตัวจากรัฐบาล คือพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งแม้แยกตัวออกจากรัฐบาล และมีท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อนายกรัฐมนตรี แต่ยังมีน้ำเสียงที่ดีต่อแกนนำรัฐบาลอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งเป็นฝ่ายค้านและมีท่าทีต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างเข้มข้น เป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในระหว่างที่รัฐบาลมีคะแนนนิยมตกต่ำ อยู่ระหว่างขาลง จึงน่าสังเกตว่า ปัจจัยในเรื่องจุดยืนทางการเมืองของผู้สมัครและพรรคต้นสังกัด มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมถึงคุณสมบัติของผู้สมัครด้วย แม้ว่าเป็นเพียงผลเลือกตั้งจากพื้นที่ จ.ลำปาง แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงแนวโน้มบางประการที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งทั่วไปปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
