หวังในอนาคตคงไม่เกิดในประเทศไทย โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

อย่าคิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นจะไม่เกิดขึ้นในประเทศอื่นใดอีก ไม่ว่าประเทศนั้นจะมีระบบการปกครองในระบอบอะไร ประชาธิปไตย เผด็จการ หรือตัวใครตัวมัน เพราะการปกครองเป็นเรื่องของอำนาจ เป็นเรื่องของชนชั้นปกครองกับชนชั้นถูกปกครอง จะอยู่ในระบบในระบอบอะไร สุดแท้แต่กำหนดขึ้นโดยผู้ที่อยู่ในสังคมนั้น

กระนั้น คือมีผู้อยู่ในปกครองและผู้อยู่ใต้ปกครองทั้งสิ้น ขนาดญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นับว่ามีวินัย คนญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นตัวอย่างที่ดีส่วนใหญ่ ได้รับการยอมรับทั่วไปว่าอยู่ในระเบียบ วินัย ปฏิบัติตน แทบเรียกว่าไม่ออกนอกลู่นอกทาง และโอบอ้อมอารี ยังไม่วายเกิดเหตุการณ์ดังเมื่อสัปดาห์ก่อนขึ้นได้

ระหว่างผู้นำกับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้นำกับผู้ที่มีความขัดแย้งทาการเมือง หรือผู้ที่มิได้อยู่ในฟากเดียวกัน ทั้งยังเป็นผู้ที่แลเห็นได้ชัดเจนว่าขัดและแย้งทางการเมืองมิใช่ในทางส่วนตัว ย่อมมีโอกาสที่จะลอบทำร้ายซึ่งกันและกัน ขณะที่มิได้เป็นศัตรูคู่อาฆาต เพราะการขัดแย้งทางการเมืองย่อมนำไปสู่การทำลายล้างซึ่งกันและกันมากกว่าการทำลายล้างในทางส่วนตัว

เพราะการขัดแย้งทางส่วนตัว ในที่สุดอาจเลิกล้างต่อกัน ด้วยว่าการล้างแค้นในทางส่วนตัวย่อมใช่วิสัยของนักการเมือง เมื่อเหตุทางส่วนตัวหมดไป ความโกรธเคืองนั้นย่อมหายตามไปด้วย

Advertisement

แต่เหตุทางการเมืองมิได้จบสิ้นไปโดยง่าย ด้วยเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นจากหลายกรณี

ดังที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ ที่สุดแล้วดูจะเป็นเหตุทั้งทางส่วนตัวและทางการเมือง ซึ่งเหตุทางส่วนตัวนำไปซึ่งที่สุดคือการติดตามล่าสังหาร ทั้งชีวิตของบุคคลผู้นั้น และความมีชื่อเสียงเรียงนามให้หายไปจากวงการการเมือง ไม่เพียงแต่หายไปจากสังคมเท่านั้น

ทางการเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นยอมรับว่าเป็นข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น แม้ไม่ยากที่จะป้องกัน แต่ความบกพร่องที่เกิดขึ้นย่อมป้องกันได้ จากการเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองในระดับนายกรัฐมนตรี

Advertisement

แน่นอนว่า ผู้ที่เป็นบุคคลสำคัญระดับนายกรัฐมนตรีย่อมมีผู้รักษาความปลอดภัยแวดล้อมหลายชั้น

นับแต่ชั้นประชิดติดตัว ชั้นห่างออกมาชนิดสามารถติดกับผู้ที่เข้าใกล้บุคคลสำคัญไม่ได้ แม้จะมีโอกาสเข้าติดตัวได้ เพราะผู้ที่ต้องการเข้าใกล้ชิดย่อมมีโอกาสหาช่องทางได้ตลอดเวลากว่าผู้ป้องกัน

มิใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย เพียงแต่การฉวยโอกาสเข้าประชิดตัวกับบุคคลสำคัญย่อมมีโอกาสมากกว่า กระนั้น โอกาสที่ผู้ป้องกันย่อมต้องตาดูหูใส่ มือไม้ต้องคอยติดพันกับบุคคลผู้นั้นแทบว่าตลอดทั้งตัว โดยที่บุคคลผู้นั้นแทบไม่รู้ตัว

วิชาประชิดตัวผู้ต้องสงสัยมิได้เป็นวิชาที่ผู้เรียนคือผู้ต้องฝึกฝนกระทั่งชำนาญจนผู้ต้องการประชิดติดตัวบุคคลสำคัญแทบว่าไม่รู้ตัว

เพราะมิเช่นนั้นบุคคลสำคัญตั้งแต่ระดับมีความสำคัญน้อยกระทั่งมีความสำคัญมากมักถูกลอบทำร้ายมานักต่อนัก แต่ที่รอดพ้นจากภยันตรายมาได้เพราะผู้ที่เรียนรู้เรื่องการประชิดติดตัวย่อมมีความชำนาญมากกว่า กระทั่งกีดกันคนร้ายออกไปพ้นจากบุคคลสำคัญได้

เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่จะบอกว่า “บกพร่อง” แต่เชื่อว่าคนร้ายหาจังหวะจะโคนประชิดตัวพร้อมใช้อาวุธปืนได้ชนิดที่ชำนาญมาก หรืออาจเรียกว่า “ฟลุค” ก็เป็นได้

กระนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ “ฝ่ายรักษาความปลอดภัย” ของทุกประเทศของทุกรัฐบาลต้องกลับมาทบทวนทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก

ถึงการเข้าประชิดติดตัวบุคคลสำคัญ กระทั่งใช้อาวุธปืนสังหารได้

โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งดูเหมือนการป้องกันอันตรายบุคคลสำคัญมากๆ ถึงขนาดบางประเทศต้องส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูงมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับคนของตน

การรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญทุกระดับต้องลงทุนนับแต่เริ่มแรกเข้าสู่ “งาน” ตั้งแต่รอบนอก กระทั่งประชิดตัว

เพราะจะปล่อยให้เหตุเช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ได้เด็ดขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image