ปัญญากับความฉลาด

ปัญญากับความฉลาด

ปัญญากับความฉลาด

“ความฉลาด” กับ “ปัญญา” เป็นคนละเรื่องกัน ความฉลาดเป็นความสามารถอย่างหนึ่งในการดำรงอยู่

ส่วนปัญญาเป็นภาวะอย่างหนึ่งในการดำรงอยู่

ในโลกนี้ คนฉลาดมีไม่มาก คาดว่าประมาณหนึ่งในสิบ ส่วนคนมีปัญญายิ่งหายาก คาดว่าราวหนึ่งในร้อย

Advertisement

ก็ดูได้ว่าในอดีตกาล แม้ โสเครติส ที่เห็นพ้องกันว่าเป็นคนมีปัญญาก็ยังยอมรับว่า หากยึดตามข้อเรียกร้องของความมีปัญญาแล้ว ตนนั้นไม่รู้อะไรเลย

ในชีวิตจริง คนที่ไม่เสียเปรียบ คือ คนฉลาด ส่วนคนที่ยอมเสียเปรียบคือ คนมีปัญญา

คนฉลาด จะรักษาผลประโยชน์ของตนไว้ได้เสมอเมื่อทำงานกับคนอื่น เช่น ทำงานราชการ ทำการค้า

Advertisement

พวกเขาจะค้าขายได้ดีจนได้กำไรงาม ส่วนคนมีปัญญา จะไม่ยอมแสวงหาผลประโยชน์สูงสุดทางการค้าเด็ดขาด การค้าบางอย่าง แม้ต้องแถมเงินก็ยังยอม

คนฉลาด รู้ว่าตนทำอะไรได้ ส่วนคนมีปัญญา เข้าใจว่าตนทำอะไรไม่ได้

คนฉลาด กุมโอกาสได้ รู้ว่าควรลงมือเมื่อใด คนมีปัญญา รู้ว่าควรปล่อยมือเมื่อใด

ดังนั้น : หยิบขึ้นมาได้ คือ ฉลาด แต่วางลงได้ จึงเป็นปัญญา

คนฉลาดมักแสดงด้านที่เปล่งประกายของตน นั่นก็คือ ลอกคราบออกมา ส่วนคนมีปัญญาจะปล่อยให้

คนอื่นแสดงด้านที่เปล่งประกาย เช่นในงานสังสรรค์ คนฉลาดปากไม่ว่าง พูดคุยได้เรื่อยๆ จึงเป็นกาน้ำชา ส่วนคนมีปัญญา

หูไม่ว่าง ตั้งใจฟังคนอื่น จึงเป็นถ้วยน้ำชา น้ำในกาน้ำชาย่อมต้องเทใส่ถ้วยน้ำชา

คนฉลาด เน้นรายละเอียด ส่วนคนมีปัญญา เน้นองค์รวม

คนฉลาด วิตกกังวลมาก นอนไม่หลับกันโดยทั่วไป ส่วนคนมีปัญญา ลี้ห่างความวิตกกังวล ลุถึงขั้นที่…

ไม่ยินดีในวัตถุ ไม่เสียใจกับตนเอง คนมีปัญญาจึงกินได้ นอนหลับ

ดังนั้น : คนฉลาดมักวายชนม์เร็ว

คนมีปัญญาจะไร้ทุกข์ไร้กังวล จึงมักอายุยืนนานกว่า

คนฉลาด ใคร่อยากเปลี่ยนแปลงคนอื่น ให้คนอื่นทำตามเจตนาของตน ส่วนคนมีปัญญา มักปล่อยไปตามธรรมชาติ

ดังนั้น : มนุษยสัมพันธ์ของคนฉลาดจะเครียดง่าย ส่วนของคนมีปัญญาจะผ่อนคลาย

คนฉลาดส่วนใหญ่ฉลาดแต่กำเนิด ได้ประโยชน์ทางพันธุกรรม ส่วนคนมีปัญญานั้น ต้องอาศัยความพากเพียรและอดทน

ความฉลาดจะได้ความรู้มาก ส่วนความมีปัญญาทำให้คนมีวัฒนธรรม
ความฉลาดพึ่งหู ตา ที่เรียกว่า หูตาดูฉลาด ส่วนปัญญา อาศัยจิตวิญญาณ คือ ปัญญาเกิดแต่ใจ
วิทยาศาสตร์ทำให้คนฉลาด ปรัชญาสอนปัญญาคน

“ความฉลาดนำมาซึ่งทรัพย์ และ อำนาจ” ส่วน “ปัญญา” นำมาซึ่ง “ความสุข” เพราะคนฉลาดมักมีความสามารถ และในความเป็นจริง ความสามารถเหล่านี้จะแปรเป็นความ “มั่งคั่ง” กับ “อำนาจ” หากโอกาสอำนวย ทว่า “ความมั่งคั่งและอำนาจ” กับ “ความสุข” นั้น บ่อยครั้งไม่เป็นสัดส่วนกัน

ท้ายสุดนี้ ผู้เขียนเองเชื่อว่า… “ปัญญา” (Wisdom) นำมาซึ่ง “ความสุข” และ “ความสุข” เกิดแต่ใจ ดังนั้น หากแสวงหาความสามารถ ความฉลาดก็เพียงพอ แต่หากแสวงหาความหลุดพ้นจากทุกข์ ไม่มี “ปัญญา” ทำไม่ได้ ไงเล่าครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image