บทนำ : กระบวนยุติธรรม

บทนำ : กระบวนยุติธรรม

สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุดได้ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนาวิชาการ “เปลี่ยนให้ผ่าน กระบวนการยุติธรรมไทย” ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า การทำงานของแต่ละองค์กรในกระบวนการยุติธรรมยังเป็นแบบแยกส่วน คำนึงถึงผลสัมฤทธิ์เฉพาะส่วนงานของตน โดยลืมนึกถึงผลสำเร็จในจุดมุ่งหมายสุดท้ายคือการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและทำให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม เราจึงได้เห็นตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายชี้แจงว่า ต้องทำตามกฎหมาย ทำตามหน้าที่ แต่สังคมเกิดคำถามว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเป็นธรรมจริงหรือไม่ กระทำเกินกว่าเหตุ หรือเลือกปฏิบัติหรือไม่

ม.ล.ศุภกิตต์ระบุว่า การได้รับความเป็นธรรม นอกจากดูภาพรวมแล้ว ยังต้องดูเป็นรายกรณีอีกด้วย ไม่ใช่ว่าคดีทำร้ายร่างกายต้องได้รับโทษเท่ากัน แต่ต้องพิจารณาถึงความร้ายแรงของการกระทำ พฤตินิสัยของผู้กระทำ ประกอบปัจจัยอื่นๆ ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้นำมาพิจารณาได้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือผู้มีอำนาจได้หยิบขึ้นมาพิจารณาอย่างเท่าเทียมกันในทุกโอกาสหรือไม่ หรือบางคดีที่เป็นคนที่มีเส้นสาย ก็หยิบขึ้นมาพิจารณาถี่ถ้วนหน่อย ซึ่งยังสงสัยว่าเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล หรือที่ระบบกันแน่ คือเป็นเรื่องของคนไม่ดีซึ่งองค์กรไหนก็ย่อมมี หรือเป็นที่ระบบที่ไม่เอื้อให้คนทำตามอุดมการณ์ได้ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้โปร่งใสต้องเริ่มจากแต่ละองค์กรในกระบวนการยุติธรรมมีความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ การโยกย้ายต้องโปร่งใส ไม่ถูกแทรกแซง คนในแต่ละองค์กรของกระบวนการยุติธรรมได้รับความเป็นธรรมในการทำงานก่อน ถึงจะสามารถส่งต่อความเป็นธรรมและอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้ต่อไป

เป็นหัวข้อเสวนาที่น่าสนใจ ว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างไรแค่ไหน ในระยะหลังๆ ประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมมากขึ้น ทุกองค์กรไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน จำเป็นต้องสนใจความคิดความเห็นของประชาชน โดยเฉพาะองค์กรที่มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน น่าจะต้องหาทางรับทราบรับฟังความเห็น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เพื่อนำมาตรวจสอบตนเอง และปรับปรุงการทำงานให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image