| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ยื้อ-ยุบเมื่อพร้อม?
การเลือกตั้ง ส.ส.เริ่มนับหนึ่ง ภายหลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคมเป็นต้นไป
แม้จะยังไม่รู้วันเวลาเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องพิจารณาจากเงื่อนไขว่า รัฐบาลจะทำหน้าที่จนครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ หรือจะยุบสภาก่อนครบวาระ ซึ่งจะกระทบต่อไทม์ไลน์การจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
กรณีของรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี กกต.วางกำหนดการเลือกตั้งไว้วันที่ 7 พฤษภาคมนี้ หากมีการยุบสภา ก่อนครบวาระไม่ว่าจะ 1 วัน หรือ 1 เดือน กกต.จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 กำหนด ทั้งนี้ภายใน 5 วัน นับแต่วันมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา กกต.จะต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป และวันสมัครรับเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา
แรงกดดันและข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้น ภายหลัง 2 กฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งบังคับใช้ คือ การให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส และเที่ยงธรรมกับทุกฝ่าย
แต่ติดตรงเงื่อนไขที่ว่า สำนักงาน กกต.จะต้องดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต รวมทั้งให้เวลาพรรคการเมืองจัดทำไพรมารีโหวตคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ทั้งสองขั้นตอนดังกล่าว ต้องดำเนินการภายหลัง 2 กฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ ซึ่ง กกต.ขอเวลาดำเนินการทั้งสองเรื่องไว้ 45 วัน
หากนับจากวันที่ 29 มกราคม ที่ 2 กฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ กรอบเวลา 45 วัน ที่ กกต.ขอดำเนินการเพื่่อเตรียมความพร้อมก่อนการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นประมาณวันที่ 15 มีนาคม นับจากนั้นหากนายกฯจะตัดสินใจยุบสภา กกต.ก็พร้อมที่จะจัดการเลือกตั้ง
ขณะที่แรงเหวี่ยงมุมกลับ ในประเด็นที่ กกต.ขอเวลา 45 วัน เพื่อเตรียมพร้อมทั้งการจัดทำไพรมารีโหวต กับการแบ่งเขตเลือกตั้ง กับถูกเชื่อมโยงว่ามีจังหวะเหมาะว่าเป็นการดึงเกม ยื้อเวลา
ให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ยังเตรียมการไม่พร้อมทั้งการจัดตั้งสาขาพรรคใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้มีตัวแทนประจำจังหวัด ให้สามารถทำไพรมารีโหวตส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ทั้ง 400 เขต รวมทั้งเดินหน้าจัดทัพผู้สมัคร ส.ส.ในทุกเขตเลือกตั้งให้พร้อมก่อน
อีกทั้งยังเป็นห้วงเวลาให้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ บริหารประเทศในฐานะนายกฯ ในช่วงนับถอยหลังของรัฐบาล ทั้งการอนุมัติงบประมาณผ่านโครงการต่างๆ เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้กับตัวนายกฯ รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ให้อยู่ในจุดที่มีความได้เปรียบมากที่สุดก่อนยุบสภา
เหตุและปัจจัยของฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเตรียมพร้อมก่อนการเลือกตั้ง หากจะมองว่าเป็นการยื้อให้ผู้มีอำนาจเตรียมการให้พร้อมที่สุดก่อนยุบสภา ก็ย่อมจะมองได้เหมือนกัน
จตุรงค์ ปทุมานนท์
