สถานีคิดเลขที่ 12 : เลือกตั้งและความหวัง

สถานีคิดเลขที่ 12 : เลือกตั้งและความหวัง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยว่า ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง และการเป็นรัฐบาลรักษาการ

นายกฯได้แจ้ง ครม.ว่าการยุบสภาจะมีภายในเดือน มี.ค.66 ส่วนกรอบเวลาเลือกตั้งเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศไว้ คือ 7 พ.ค.66

ระหว่างนี้ขอให้รัฐมนตรี และ ส.ส.ช่วยกันพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างอยู่หากเป็นไปได้ เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่เสนอไปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการปฏิรูปต่างๆ

Advertisement

นักข่าวรุมถามว่า แล้วนายกฯจะยุบสภาช่วงไหน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดือน มี.ค.ก็ มี.ค.สิ ให้เวลาสอดคล้องกับเดือน พ.ค. ให้ ส.ส.มีเวลาหายอกหายใจ

นั่นคือข่าวอันเป็นที่มาว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. ตามกำหนดเดิมที่ กกต.วางแผนไว้

ประเด็นที่น่าพูดถึงในขณะนี้ คือ เรื่องของการจัดเลือกตั้ง เพราะหลายคน นึกถึงการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แล้ว ยังอดเข็ดขยาดไม่ได้

Advertisement

กว่าจะรู้ผล กว่าจะรู้คะแนน กว่าจะเข้าใจวิธีการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่กำหนดไว้อย่างสลับซับซ้อน เราก็ได้สภาหน้าตาแปลกๆ มา 1 ชุด

ความหวังคือ ในปีนี้ จะไม่เกิดเหตุอย่างนั้นอีก โดยเฉพาะเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาใช้บัตร 2 ใบ แยกระหว่าง ส.ส.เขตกับปาร์ตี้ลิสต์แล้ว

มีภาษิตกฎหมายพูดถึงความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็อาจเทียบได้กับการเลือกตั้งที่รู้ผลล่าช้า จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของผู้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งอย่างไร

เพราะฉะนั้น การรายงานผลการเลือกตั้ง ผลการนับคะแนน จะต้องทำ และต้องทำให้ดีกว่าปี 2562 ที่อยู่ๆ หน่วยงานปิดเครื่องกลับไปนอนหน้าตาเฉย

ควรจะเป็นความรับผิดชอบว่าเลือกตั้งเสร็จ ต้องนำผลการเลือกตั้งไปสู่ประชาชนด้วย ไม่ใช่ว่าใครอยากรู้ก็ไปแหวกๆ พุ่มไม้ เสาะหากันเอาเอง

ก่อนที่การเลือกตั้งจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ระบบการเลือกตั้ง การรายงานผลการเลือกตั้ง ก็จะต้องเปลี่ยนด้วย และเป็นการเปลี่ยนในทางที่ดี

เชื่อว่า ประชาชนทั้งประเทศอยากรู้เหมือนๆ กันว่า ในคืนวันที่ 7 พ.ค.ใครจะมาเป็นนายกฯของประเทศ

พรรคไหนจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และจะเป็นรัฐบาลที่นำพาประเทศไปในทิศทางใด ใหม่ๆ หรือเก่าๆ เดิมๆ

ส่วนการทำงานของสื่อ ในฐานะเป็นกลไกอย่างหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย ทุกค่ายเตรียมจัดหนัก จัดเต็มในการรายงาน วิเคราะห์วิจารณ์การเลือกตั้งครั้งนี้

เครือมติชนย้ำมานานว่า ประเทศจะเดินหน้าได้ ตัองมีการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม ผลการเลือกตั้งจึงจะมีพลัง พอที่จะกำหนดทิศทางของประเทศได้

ถ้าประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งอย่างหนึ่ง เลือกพรรคหนึ่ง แต่กระบวนการถูกบิดเบือน ผลเลือกตั้งไม่ตรงกับที่ประชาชนกาคะแนน กำหนดในคูหาเลือกตั้ง

ความยุ่งยากก็จะตามมาติดๆ

สิ่งที่เกิดเมื่อ 2562 ไม่ควรจะกลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image