สถานีคิดเลขที่ 12 : หยุด รบ.เสียงข้างน้อย

สถานีคิดเลขที่ 12 : หยุด รบ.เสียงข้างน้อย

ไม่ได้อยากให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ดูเหมือนว่าประเด็นนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในสูตรจัดตั้งรัฐบาล

ก่อนหน้านี้มีหลายคนถามเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อย บรรดาแกนนำของแต่ละพรรคได้ปฏิเสธ

เพราะเห็นว่าประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลเสียงข้างมาก

Advertisement

คนแรกๆ ที่ยืนยันคือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ให้ความเห็นว่าหากไทยมีรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็อย่าหวังว่าต่างชาติจะมาลงทุน เพราะไม่มีใครเขาเชื่อมั่น

ระยะหลังๆ ได้ยินจากปากหัวหน้าพรรคแทบทุกพรรค ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอกย้ำหลายครั้งว่า ต้องรัฐบาลเสียงข้างมาก

ความคิดสอดคล้องกับผลโหวตโพลมติชนและเดลินิวส์ที่เห็นว่า ส.ว.ควรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากสุด

Advertisement

แต่ดูเหมือนว่า ข้อกำหนด ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ จะเป็นปัจจัยที่พรรคการเมืองไม่เชื่อมั่น

พรรคเพื่อไทย คือ พรรคที่มีประสบการณ์พรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุดแต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล เมื่อปี 2562 คราวนี้จึงเดินหน้ายุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์”

พรรคเพื่อไทยขยับเป้าจากเดิม 250 เสียงขึ้นเป็น 310 เสียง และปรารถนาให้พรรคฟากฝั่งประชาธิปไตยมีเสียงรวมกันเกิน 375 เสียง เพื่อการันตีได้ว่า 3 ป.จะไม่ได้เป็นรัฐบาล

พรรคเพื่อไทยพยายามนำเสนอนโยบายโดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้อง และดูเหมือนว่าประชาชนจะขานรับ

แต่ความต้องการของประชาชนมีมากกว่านั้น เพราะอยากจะหลุดพ้นจากสภาพเดิมๆ

ด้วยเหตุนี้พรรคก้าวไกลที่กล้าเสนอให้ประเทศเปลี่ยนแปลงจึงต้องตาต้องใจ แม้หลายคนจะมองว่าเพ้อฝัน แต่ก็อยากลองให้พวกเขามีโอกาสลงมือ

กระแสพรรคก้าวไกลมาแรงทำให้เกิดเกรงกันว่าจะกระทบยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย

ขณะที่กระแสหนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐยังสู้ไม่ได้ ก่อเกิดกระแสจากผู้ไม่ยอมแพ้ ผลักดันแนวคิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ถ้าฝั่งเสรีนิยมประชาธิปไตยมี 300 เสียง ส่วนฝั่งอนุรักษนิยมมี 200 เสียง แต่มีเสียง ส.ว. 250 เสียงเป็นกองหนุน แล้วการจัดตั้งรัฐบาลจะทำอย่างไร

ถ้าในที่สุดกระแสรัฐบาลเสียงข้างน้อยกลายเป็นจริง อนาคตของประเทศจะพังพินาศไหม

การมีรัฐบาลเสียงข้างน้อยย่อมไม่ส่งผลดีต่อประเทศ ดังนั้น เราต้องหยุดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ช่วยกันหยุดด้วยการทำให้พรรคเพื่อไทยบรรลุเป้าหมาย คือ แลนด์สไลด์

หรือทำให้พรรคฝั่งเสรีนิยมประชาธิปไตยได้ ส.ส.เกิน 375 เสียง

หรือทุ่มคะแนนให้พรรคฝ่ายอนุรักษนิยมได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภา

หรือวุฒิสภาสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุดเป็นนายกฯ

ถ้าทุกกลไกยืนยัน “กติกาเสียงข้างมาก” ประเทศไทยก็พอเห็นแสงสว่าง

ดังนั้น ก่อนเข้าคูหาไปหย่อนบัตร ขอให้ตัดสินใจดีๆ

หากใครยังลังเล อยากได้ข้อมูลเพิ่ม วันที่ 2 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป ที่ห้างสยามพารากอน มติชนกับเดลินิวส์จัดงานใหญ่

งานดีเบต ชื่อ “สงคราม 9 พรรค” ที่เชิญผู้สมัคร ส.ส. แกนนำพรรค และแคนดิเดตนายกฯ มาแสดงวิสัยทัศน์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการขับเคลื่อนประเทศ

งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ยูทูบ ของเครือมติชน และเดลินิวส์

ลองติดตามรับฟังรับชม ข้อมูลจากปากผู้ขันอาสาไปบริหารประเทศน่าจะช่วยให้หลายคนตัดสินใจได้

ตัดสินใจได้แล้วอย่าลืมไปเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image