บทนำ : ปฏิรูปการศึกษา

บทนำ : ปฏิรูปการศึกษา

ผลการเลือกตั้งทั่วไป สะท้อนว่า ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง พรรคฝ่ายค้านหลัก 2 พรรค ประกอบด้วย ก้าวไกล และเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง ด้วยจำนวนที่นั่งรวม 292 ที่นั่ง เกินครึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน ภายหลังการเลือกตั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ซึ่งมีที่นั่ง ส.ส.สูงสุด 151 ที่นั่ง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงนามเอ็มโอยูร่วมกับ 8 พรรคการเมือง เพื่อสนับสนุนนายพิธาดำรงตำแหน่งนายกฯ ขณะนี้รวบรวมเสียง ส.ส.ได้ 312 ที่นั่ง และอยู่ระหว่างการเจรจากับ ส.ว. ขอเสียงสนับสนุนเพิ่ม ให้ได้ถึง 376 เสียง ตามเกณฑ์การตัดสิน ที่ต้องมีเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสองสภารวมกัน

นอกจากทำเอ็มโอยู 8 พรรคการเมือง ยังเห็นร่วมกัน ในภารกิจที่จะผลักดัน 23 เรื่อง อาทิ ฟื้นฟูประชาธิปไตย จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน, ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม,ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม, เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ,ผลักดันการกระจายอำนาจ, ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม, ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า ปฏิรูประบบการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

พรรคการเมืองหลัก ที่สมัครลงแข่งขัน เลือกตั้งทั่วไป 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา นำเสนอนโยบายเป็นจุดขาย ใช้รณรงค์หาเสียง โน้มน้าวผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนให้กับผู้สมัครและพรรคการเมืองของตน ครบทุกมิติทั้งเรื่อง การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม แต่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง หรือที่เรียกว่าประชานิยม ตามการจัดลำดับปัญหา ความสำคัญเร่งด่วนของของประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ยังมีเหตุผลการเมืองรองรับ กล่าวคือ นโยบายประชานิยม แจกเงิน สวัสดิการ การให้ในรูปแบบต่างๆ เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ พรรคการเมืองจึงมุ่งแข่งขันในเรื่องนี้เป็นหลัก ยกเว้นก้าวไกลที่ชู การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

Advertisement

พรรคก้าวไกลแกนนำรวมเสียงตั้งรัฐบาล วาง 23 ภารกิจที่ต้องผลักดันในแผนเป้าหมาย โดยการปฏิรูปการศึกษาจัดอยู่ในอันดับที่ 21 แม้ลำดับไม่ผูกพัน ว่าดำเนินการก่อนหลัง แต่สะท้อนเรื่องการให้ความสำคัญไม่มากก็น้อย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา สถาบันคึกฤทธิ์ จัดอภิปราย “ปัญหาเศรษฐกิจที่รอรัฐบาลใหม่” นอกจากเศรษฐกิจ อีกเรื่องที่วิทยากรหลัก ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ เห็นว่าสำคัญที่สุด คือการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งนายณรงค์ชัย อัครเศรณี กล่าวสนับสนุนว่าเป็นเรื่องจริง ที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งที่จริงเรื่องการศึกษา เป็นที่รับรู้ เข้าใจตรงกันว่าสำคัญต่อชาติบ้านเมืองมาก แต่กลับไม่มีรัฐบาลใด กระตือรือร้นดำเนินการ รัฐบาลชุดใหม่เป็นที่คาดหวังของประชาชน ในการนำพาประเทศก้าวหน้า เรื่องการศึกษาก็เป็นที่คาดหวัง แม้ไม่อยู่ในกระดานหลักปัญหาเร่งด่วน แต่สังคมเห็นว่าจำเป็นมาก ต้องปฏิรูป จริงจัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image