บทนำ : ปลดล็อกการเมือง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ กล่าวในงาน เสวนา “91 ปีประชาธิปไตยกับก้าวต่อไปหลังการเลือกตั้ง 2566 : กฎกติกาทางรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมสำหรับการเมืองไทย” จัดขึ้นที่คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อ 24 มิถุนายน ว่า เวลามีกติกาที่ขาดความเป็นสากล ไม่เป็นหลัก มีความผิดเพี้ยน ความสับสนวุ่นวายก็ตามมา เราเลือกตั้งมาแล้วกว่า 1 เดือน แต่ยังมีความสับสน คาดคะเนไปต่างๆ นานาว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนจะทำได้หรือไม่ รวมถึงว่าแม้จัดตั้งได้แล้วก็ยังมีความวิตกกังวลต่อไปอีกว่าจะเกิดความขัดแย้งวุ่นวาย เพราะฉะนั้น เห็นด้วยว่าจำเป็นที่จะต้องทำกติกาใหม่ มิฉะนั้นการเมืองไทยจะเดินต่อไปไม่ได้

นายอภิสิทธิ์ระบุในบางช่วงตอนว่า ปัญหาที่มีทุกวันนี้เพราะรัฐธรรมนูญปี’60 ไม่ได้ตั้งโจทย์ของประเทศ แต่ตั้งโจทย์ว่าคนที่ยึดอำนาจมาจะมีอำนาจต่อได้อย่างไร และทำให้หลายสิ่งที่เคยเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความชอบธรรมสร้างความสมดุลเสียไปหมดเริ่มตั้งแต่ประชามติที่ไม่เสรี จนถึงการที่ผู้ร่างกระโดดลงมาเล่นเอง สิ่งที่เป็นความเสียหายมากมาถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่เรามีองค์กรอิสระในปี’40 ยุคนี้ความเชื่อถือที่สังคมมีต่อองค์กรอิสระต่ำสุด และแทบมองไม่เห็นแล้วว่าจะฟื้นกลับมาได้อย่างไร โจทย์ใหญ่ที่สุดคือ ไม่ใช่การบอกว่าควรมีหรือไม่มีวุฒิสภา องค์กรอิสระควรเป็นอย่างไร แต่ต้องตอบคำถามก่อนว่า จะเลือกสร้างระบบที่จะให้ตรวจสอบและถ่วงดุลกันโดยวิธีไหน

นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องต่างๆ อาทิ ฉบับปัจจุบัน เขียนทุกเรื่องจนกระทั่ง ให้ศาลมาตัดสินเรื่องจริยธรรมแล้ว มันยิ่งตอกย้ำปัญหา เพราะทุกวันนี้เวลามีเรื่องอื้อฉาว นักการเมืองทำอย่างเดียวคือท้าว่าก็ไปฟ้องสิ แล้วรอกระบวนการซึ่งยืดเยื้อ คนไม่เชื่อมั่น ทั้งยังระบุว่า ตอนนี้ทุกคนกังวลเรื่องจัดตั้งรัฐบาลแต่หวังว่าสภาที่เกิดขึ้นแล้วจะเดินหน้าให้ความสำคัญกับการออกแบบกระบวนการให้ดีเป็นลำดับต้นๆ ส่วนที่เหลือคือประชาชนได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้ที่จะมาจัดทำร่างต่อไป

พรรคการเมืองต่างๆ เสนอนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นจุดหนึ่งในจุดขายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและในหลายเวทีดีเบต แกนนำแทบทุกพรรค ต่างเห็นพ้องว่า ต้องแก้ไข เนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ขยายสิทธิ เสรีภาพประชาชน ออกแบบคุ้มครอง ยกระดับให้มีมาตรฐาน การดำรงคงไว้ ไม่แก้ไข รังแต่จะทำให้เกิดปัญหา ฉุดรั้งการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน เนื้อหาที่ดีไซน์มา ก่อให้เกิดอุปสรรค ความยุ่งยากเพียงใด การจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ เป็นหนึ่งในรูปธรรม การแข่งขันและการตัดสินจบแล้วแต่กลับมีความไม่แน่นอนว่า สถาบันการเมืองจะตอบสนองความต้องการของประชาชนได้หรือไม่ ทุกพรรคการเมืองจึงพึงตระหนักและกระตือรือร้นผลักดันแก้ไขให้ลุล่วงอย่างจริงจัง ปลดล็อกการเมืองและประเทศชาติได้เดินต่อ ตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image