ได้เพราะไม่อยากได้

ได้เพราะไม่อยากได้

ได้เพราะไม่อยากได้

พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยตกลงกันได้เรื่องผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ คนกลางมาทำหน้าที่ ทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายและเดินหน้าต่อไปได้

เหตุเพราะต่างฝ่ายต่างใช้ท่าทีกัลยาณมิตร ประนีประนอม ยืดหยุ่น ไม่แข็งกร้าว ดึงดันเอาแต่ใจตัว แต่รับฟังเหตุและผลซึ่งกันและกัน

ขณะที่คนกลางก็ไม่ดิ้นรนกระเสือกกระสน อยากได้ อยากเอา กลับตรงกันข้าม รู้จักพอ จึงเป็นที่ชื่นชมและยอมรับของทั้ง 8 พรรค ยกตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติให้อย่างเป็นเอกฉันท์

Advertisement

นี่แหละครับ อยากได้จึงไม่ได้ ไม่อยากได้จึงได้ หรือเพราะเป็นกำหนดของพระเจ้าจึงมิอาจปฏิเสธได้ ก็แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไร

สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ทั้งสองพรรคและคนกลางตกลงกันได้ก็คือ เจตนารมณ์ของผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งส่วนใหญ่ต้องการเห็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยเกิดขึ้นให้ได้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกติกาที่บิดเบี้ยว ไม่ยุติธรรม เอารัดเอาเปรียบกลับคืนสู่ความเป็นปกติ

ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจึงมีบทบาทอย่างสำคัญในฐานะประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง ในการนำพาสถาบันรัฐสภา เดินหน้าไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ

Advertisement

นอกจากความเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว จุดยืน ความคิดทางการเมืองที่ยึดเอาประโยชน์สาธารณะเป็นตัวตั้งจึงเป็นคุณสมบัติสำคัญยิ่งยวด

ดังที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก แคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ประกาศจุดยืนไว้ก่อนหน้าที่จะยอมรับฉันทามติ ถอยหนึ่งก้าวมารับหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยดี

“ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องไม่เป็นนั่งร้านหรืออยู่ใต้อาณัติของรัฐบาล ไม่เกรงใจพรรคใด ให้สภานิติบัตญัติมีอำนาจตรวจสอบฝ่ายบริหารจริงๆ”

ด้วยแนวทาง 3 ป. ได้แก่ ประสิทธิภาพ โปร่งใส ประชาชน

ประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพในการใช้เวลาการประชุม พิจารณากฎหมาย ข้อร้องเรียน ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ไม่เกิดเหตุสภาล่มบ่อยครั้ง

ประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย เป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่เข้มแข็ง ส่งเสริมให้ ส.ส.เสนอร่างกฎหมายมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่นิติบัญญัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงรับรองกฎหมายของรัฐบาล

ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับประชาคมโลก แปลกฎหมายเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเอื้อต่อการศึกษา ดูงาน เพิ่มความร่วมมือกับสภาต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการออกกฎหมายที่ก้าวหน้า

ประสิทธิภาพในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การเรียกรัฐมนตรีเข้าตอบกระทู้ และใช้กลไกกรรมาธิการอย่างเข้มแข็ง โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด

ประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ เช่น งบเลี้ยงรับรอง งบดูงานต่างประเทศ เพิ่มงบดูแลสวัสดิการของข้าราชการ ลูกจ้าง แม่บ้าน ตำรวจสภา ลดงบโครงสร้างพื้นฐานของสภา ไปเพิ่มงบพัฒนาการทำงานวิชาการของสภา ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างสภาที่ล่าช้า

โปร่งใส

จัดทำระบบเปิดข้อมูลการอภิปราย การทำงาน การเข้าประชุม การลงมติ ของ ส.ส.ให้ประชาชนทั่วไปตรวจสอบได้ง่าย

จัดทำระบบติดตามสถานะของร่างกฎหมาย

การจัดซื้อจัดจ้าง ทำสัญญาจ้างพนักงานอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส

จัดทำระบบแสดงตนที่โปร่งใส ไร้การเสียบบัตรแทนกัน

ประชาชน

ให้ประชาชนใช้บริการสภาได้โดยง่าย เข้าถึงทุกบริการอย่างสะดวก เช่น ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ห้องให้นม ห้องเลี้ยงเด็ก

สนามหญ้ารอบสภา จะเป็นที่แสดงออกของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน

จัดทำสภาเยาวชน เพื่อสะท้อนเสียงและความต้องการของเยาวชนไปถึงผู้บริหารประเทศ

จัดสภาสัญจรไปยังกลุ่มประชาชนที่เข้าไม่ถึงบริการและทรัพยากรรัฐ

สร้างระบบให้ประชาชนเข้าถึง ติดต่อ สอบถามสมาชิกรัฐสภาทุกคนได้ผ่านเว็บไซต์

รัฐสภาคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะสภาคือศูนย์กลางอำนาจที่สถาปนาโดยประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนเจ้าของประเทศ ประเทศไทยที่เราอยากเห็นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเริ่มสร้างจากในรัฐสภาเป็นแห่งแรก

รัฐสภายังเป็นหนึ่งในสามอำนาจอธิปไตยของประเทศ ความเป็นนิติรัฐ เป็นประชาธิปไตย ของประเทศ ย่อมขึ้นอยู่กับฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสำคัญ

“ผมมุ่งมั่นจะทำให้สภาเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ค้ำจุนประเทศให้ได้ ให้สมกับที่ผู้แทนราษฎรทุกคนได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจแทนประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ”

ครับ ผมคัดลอกเอาคำประกาศวิสัยทัศน์ของนายปดิพัทธ์มาฉายซ้ำอีกครั้ง ก็เพื่อให้ช่วยกันติดตามย้ำเตือนว่า เมื่อเข้าสู่อำนาจ สวมหัวโขนเป็นท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะทำจริงตามที่พูดไว้ ไม่ใช่เป็นเพียงคำประกาศอันสวยหรูดูดีเพื่อให้ได้ตำแหน่งมาครองเท่านั้น

และก็เห็นด้วยอย่างยิ่งที่พรรคก้าวไกลและนายปดิพัทธ์ ประกาศเปิดตัวเพื่อขอชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้า ซึ่งควรจะเป็นแบบอย่างประเพณีของทุกพรรคทำแบบเดียวกัน แสดงถึงความเปิดเผย โปร่งใส ให้สังคมได้รับรู้และมีส่วนร่วมให้ความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ โดยคิดถึงประโยชน์ของสังคม ประชาชนเป็นหลัก พรรคเป็นรอง

ไม่ได้เป็นเรื่องการลักไก่ ตัดหน้า ออฟไซด์ พรรคการเมืองคู่แข่งหรือพรรคอื่นๆ ทั้งหลาย ที่คิดถึงแต่ประโยชน์ของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคตนมาก่อนเป็นสำคัญ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image