ลึกซึ้ง ซับซ้อน เจตจำนง ประชาชน 14 พฤษภาคม
เงื่อนไขที่ให้พรรคเพื่อไทยสะบั้นความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมาจาก 1 ส.ว. ไม่ว่าจะมาจาก 1 พรรคอันเป็นรัฐบาล “เดิม”
ดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “คำขาด”
ดำเนินไปอย่างมีลักษณะ “ท้าทาย” และ “ตรวจสอบ” ตัวตนแห่งความเป็นพรรคเพื่อไทยอย่างแหลมคม
กลายเป็น “เผือกร้อน” อันอยู่ใน “มือแกร่ง”
เพราะการตัดสินใจ “เลือก” ต่อคำขาดนี้มิได้สะเทือนแต่ต่อพรรคก้าวไกล หากแต่ยังมีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย
ยิ่งกว่านั้น ยังเป็น “เส้นแบ่ง” สำคัญในทางการเมือง
กลายเป็นคำถามทั้งต่อ “แนวโน้ม” ใหม่ในทางการเมืองโดยองค์รวม และเป็นแนวใหม่ที่พรรคเพื่อไทยจักต้องเผชิญ
ถามว่าเป็น “ทางเลือก” อันเป็น “ทางรอด” จริงละหรือ
ก่อนถึงการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยก็มีรูปธรรมอันดำรงอยู่ในลักษณะที่เป็น “ตัวอย่าง” ทางการเมืองให้เปรียบเทียบ
เห็นได้จากกรณี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
แม้จะพยายามสำแดงความเป็น “กลาง” ในทางการเมืองแค่ไหน อย่างไร ก็ยังกลายเป็น “คำถาม” มีความแคลงคลางกังขา
ในที่สุด “ประโยชน์” ตกกับใคร
ยิ่งกรณีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ตั้งแต่ออกโรงในเรื่องรัฐธรรมนูญมาตรา 272 กระทั่งการต่อสายไปยังพรรคชาติไทยพัฒนา
และเมื่อปะทุอารมณ์ต่อ “ด้อมส้ม” ยิ่งเป็น “ประเด็น”
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ไม่ว่า #วันนอร์ ไม่ว่า #เสรี ได้ทะยานไปติดอันดับ 1 ในเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างฉับพลันทันใด
แล้วกรณีของพรรคเพื่อไทยจะรอดพ้นไปได้ละหรือ
แท้จริงแล้ว แต่ละก้าวย่างอันเห็นได้จากเส้นทางของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เห็นได้จากเส้นทางของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
เป็น “คำตอบ” ให้กับ “เพื่อไทย”
การรุกไล่ไม่ว่าจะมาจากภายในของ 250 ส.ว. ไม่ว่าจะมาจากพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์
ล้วนเป็น “สัญญาณ” ล้วนเป็น “การเตือน”
ด้านหนึ่ง เร่งเร้าอย่างรุนแรงให้จำเป็นต้องตัดสินใจ ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง สะท้อนให้เห็น “แรงบีบ” อันทรงพลานุภาพทางการเมือง
สะท้อนและยืนยันว่า “อำนาจ” อยู่ในมือใคร
การตัดพรรคก้าวไกลจึงกลายเป็น “ทางเลือก” เหมือนกับจะชี้ถึง “อนาคต” ในทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ
แต่ก็แสดง “ร่องรอย” อันมาจาก “อดีต” ไปด้วย
วินาทีแห่งการตัดสินใจเท่ากับยืนยันทุก “ข่าวลือ” อันกลายเป็น “กระแส” ต่อเนื่องอย่างครึกโครมก่อนการเลือกตั้ง
มีผลอย่างสำคัญต่อ “การเลือกตั้ง”
มีผลอย่างสำคัญทำให้กระบวนการ “แลนด์สไลด์” ดำรงอยู่ในลักษณะสะท้อนผ่านทั้งพรรคก้าวไกลประสานกับพรรคเพื่อไทย
นี่ย่อมเป็น “เจตจำนง” ที่จะเห็นว่าเป็น “อาณัติ” หรือไม่
