| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
ขณะที่การเมืองยังฝุ่นตลบกับการโหวตเลือกนายกฯ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ที่เครื่องจักรต่างๆ บ้างเดินช้า บ้างหยุดนิ่ง และบ้างทรุดหนัก
การส่งออก…ตัวเลขติดลบมาหลายเดือนติดต่อกัน ด้วยเหตุเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ายังไม่ฟื้น
การท่องเที่ยว…ที่เพิ่งฟื้นตัวหลังพิษโควิด พอจะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้บ้าง แต่ดูท่าจะไม่สวยหรูอย่างที่คาดหวังไว้โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่คาดว่าจะมาไทยปีนี้ 5 ล้านคน แต่ผ่านมาเกินครึ่งปีแล้วเข้ามาแค่ 1.6 ล้านคน
การลงทุน…เครื่องจักรอีกตัวของเศรษฐกิจไทย แต่เมื่อการเมืองยังไม่รู้หมู่หรือจ่า เอกชนทั้งไทยและต่างชาติจึงอยู่ในภาวะเวทแอนด์ซี ว่ารัฐบาลชุดใหม่หน้าตาจะเป็นอย่างไร จึงเบรกการลงทุนไว้ก่อนทั้งโครงการเก่าและใหม่
จึงอยากรู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ จะมีใครลงทุนเพิ่มไหม ปรากฏว่ามี นั่นคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
เมื่อไม่นานมานี้ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ที่ประชุมบอร์ด ปตท.อนุมัติให้ปรับแผนการลงทุปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก 60,254 ล้านบาท จากเดิม33,344 ล้านบาท เป็น 93,598 ล้านบาท
โดยเฉพาะการลงทุนในบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% เดิมตั้งไว้ที่ 12,515 ล้านบาท เพิ่มเป็น 73,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61,264 ล้านบาท อาทิ ร่วมลงทุนบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด ในโครงการ LNG Receiving Teminal แห่งที่ 2 และการร่วมลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ครบวงจร จากโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด และโรงงานผลิตแบตเตอรี่
รวมทั้งให้บริการเช่าใช้อีวี ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยมีอีวีให้บริการกว่า 1,000 คัน และขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้ากว่า 400 หัวจ่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อีกทั้ง ยังลงทุนในกลุ่มธุรกิจโภชนาการเพื่อสุขภาพ ทั้งตั้งโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืชครบวงจร จะเดินสายการผลิตภายในปีนี้ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย อาทิ โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม โดยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนกว่า 45 พื้นที่ใน 29 จังหวัด ใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้ของกลุ่ม ปตท. พัฒนาคุณภาพผลผลิต และยกระดับการตลาด
อีกทั้ง ยังปลูกป่าเพิ่มเติมอีก 2 ล้านไร่ เพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจกร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ขณะที่ ปตท.ครบรอบปีที่ 45 ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย จากภารกิจจัดหาน้ำมันในช่วงวิกฤตโลกเมื่อปี 2521 พัฒนามาเป็นลำดับ ทำให้ไทยพึ่งพาตนเองด้านพลังงานมาได้ดีในระดับหนึ่ง ลดสูญเสียเงินตราต่างประเทศ และสยายปีกลงทุนในกิจการต่างๆ เป็นอีกพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
ในวาระสำคัญ ปตท.มักจะปล่อยซิงเกิลออกมา ปีนี้เป็นเพลง “เธอคือพลังของฉัน” ขับร้องโดยนักร้องอมตะ ที่ไม่ว่าจะรุ่นเยาว์ วัยเก๋า ก็ต้องเรียกเขาว่าพี่ จะใครที่ไหนถ้าไม่ใช่ “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ ร้องคู่กับนักร้องสาววัยใส “อิ้งค์” วรันธร เปานิล เจ้าของฉายา เจ้าหญิงแห่งเพลงซินธ์ป๊อป
“จุดพลังให้กันและกัน จากวันนั้นที่เดินร่วมทาง ร่วมสุขร่วมทุกข์หลอมรวมกันเป็นหนึ่งหัวใจ จุดพลังให้ใจที่มี จากวันนั้น สู่วันพรุ่งนี้ที่แสนไกล เดินก้าวไปด้วยลมหายใจเดียวกัน”
ทั้งเนื้อเพลงและนักร้อง เป็นนัยว่าคนรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่ดีได้
การลงทุนของ ปตท.ที่ยังไปต่อ ไม่รอการเมืองนิ่ง พอจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยไปได้… เมื่อฟังและชมเอ็มวี“เธอคือพลังของฉัน” เพลินๆ สบายๆ เป็นกำลังใจได้ดีในยามที่บรรยากาศมัวๆ
สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม
