| ผู้เขียน | วรศักดิ์ ประยูรศุข |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : โหวตรอบที่ 3
เดิมทีเดียว รัฐสภานัดประชุม 27 ก.ค. เพื่อลงมติรับรองนายกรัฐมนตรีเป็นรอบที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะถึงคิวของแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย
แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้วินิจฉัยว่า การลงมติของรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.มิให้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯเข้าโหวตซ้ำเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ทางประธานรัฐสภา จึงให้เลื่อนการประชุม 27 ก.ค.ออกไปก่อน คาดว่าจะประชุมกันอีกครั้งในต้นเดือน ส.ค.
การโหวตนายกฯ รอบนี้ ถ้านับจาก 19 ก.ค.ถือว่าเว้นวรรคยาวนาน มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น และยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดตามมาอีก
พรรคเพื่อไทยที่รับไม้จัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลเจอทัวร์ลงอย่างหนัก จากหลายๆ เรื่องด้วยกัน
ตั้งแต่การเชิญพรรคต่างๆ มาหารือเพื่อจับมือกันเป็นรัฐบาล บางพรรคเกี่ยวข้องกับรัฐประหาร 2557
ส่วนมาก ตั้งเงื่อนไขไม่ร่วมงานกับพรรคก้าวไกล
นำไปสู่การตีความว่า เป็นการขับไล่พรรคก้าวไกลทางอ้อม เรื่องบานปลายทันที
เพิ่มอุปสรรคให้กับการตั้งรัฐบาล ปัญหาที่ ส.ว.ไม่ยอมรับให้มีพรรคก้าวไกลในรัฐบาล ก็ดูไม่มีหนทางกล่อม ส.ว.เปลี่ยนใจได้
เป็นตัวล็อกที่ชุลมุนไปหมด การปลดล็อกไม่ง่าย ใช่ว่าจะกดปุ่ม หรือปิดสวิตช์ แล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทันที
จนเกิดข้อเสนอให้รอไปอีก 10 เดือน ให้ ส.ว.ชุดนี้อายุครบ 5 ปี ในวันที่ 11 พ.ค.2567 ก็มีคนท้วงว่า แน่ใจหรือว่า ระหว่างรอ 10 เดือน อีกฝั่งเขาจะยืนรอเฉยๆ การใช้อำนาจบางอย่าง กระบวนการกฎหมายต่างๆ อาจจะเกิดขึ้น จนสถานการณ์เปลี่ยนไปหมด
ยิ่งไปกว่านั้น คือความเป็นประเทศ ที่ไม่สามารถปิดประตูดับไฟนอนไปค่อนปี แต่ต้องมีรัฐบาลเข้ามาตัดสินใจ แก้ปัญหาวันต่อวันโดยเฉพาะการฟื้นเศรษฐกิจ ให้ทุกระดับในสังคม ทำกิจกรรมทางธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไป
แนวทางที่น่าจะดำเนินการคือ พรรคเพื่อไทยต้องหาทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เลือกจับมือกับพรรคที่พอไปกันได้ ภายใต้ข้อจำกัดที่บีบรัดไปทุกด้าน และพยายามรักษาหลักการต่างๆ ที่เคยประกาศสัญญากับประชาชนไว้ให้มากที่สุด
เชื่อว่า น่าจะมีพรรคการเมืองที่พอจะร่วมทางกันไปได้ หาทางผ่านด่าน ส.ว.ไปให้ได้
และจะเป็นเรื่องดี หาก ส.ส.จากพรรคต่างๆ ร่วมกันผลักดันให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมือง เอาชนะอำนาจจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารไปให้ได้
นำเอาการเมืองประชาธิปไตยที่เกิดจากการเสียสละร่วมกันของผู้มาจากการเลือกตั้ง มาแทนที่การเมืองที่กำหนดโดยฝ่ายที่มาจากการลากตั้งแต่งตั้ง
และช่วยกันจดจำความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น นำไปสร้างกฎกติกาที่เป็นธรรม เป็นสากล สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
