เดินหน้าชน : ‘ระยอง’ส่งแรงกระแทก

เดินหน้าชน : ‘ระยอง’ส่งแรงกระแทก วันนี้หากจับกระแสในโซเชียลมีเดีย

วันนี้หากจับกระแสในโซเชียลมีเดียการเลือกตั้งซ่อมระยองเขต 3 จะเห็นความคึกคักเพียงแค่พรรคเดียวคือพรรคก้าวไกล

เพราะก้าวไกลทั้ง “ก่อน” และ “หลัง” การสมัครรับเลือกตั้ง จัดทัพใหญ่เคลื่อนองคาพยพอย่างเป็นระบบ

มองผ่านการลงพื้นที่ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค มีความถี่เป็นอย่างสูงเพื่อต้องการความมั่นใจถึงหลักประกันในชัยชนะครั้งนี้ แม้จะเป็นพื้นที่สีส้มที่ ส.ส.คนเก่าตกเก้าอี้ด้วยเหตุผลทางเทคนิค

หากย้อนกลับไปดูสถิติจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดพบว่าพรรคก้าวไกลกวาดคะแนนในพื้นที่นี้ไปได้ 29,034 คะแนน ตามมาด้วยอันดับสองอย่าง นายพายัพ ผ่องใส ของพรรคพลังประชารัฐ21,726 คะแนน และ นายบัญญัติ เจตนจันทร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ 14,668 คะแนน

Advertisement

เมื่อดูจากคะแนนครั้งที่ผ่านมาแล้วจะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลทิ้งห่างคู่แข่งพอสมควร

แต่ถ้าเอาคะแนนอันดับ 2 และ 3 รวมกัน ย่อมกลับมาเอาชนะก้าวไกลได้ไม่ยากเช่นกัน

น่าเสียดายที่วันนี้ประชาธิปัตย์เกาะขบวนร่วมรัฐบาลเพื่อไทยไม่สำเร็จ เพราะมิฉะนั้นแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ ย่อมเป็นสงครามตัวแทนระหว่าง

Advertisement

ฝ่ายค้านกับรัฐบาล

วันนี้แม้เป็นศึกพรรคฝ่ายค้านกับพรรคกึ่งฝ่ายค้าน-รัฐบาล แต่ก็อย่ามองข้ามสงครามตัวแทนในครั้งนี้

เพราะพรรคก้าวไกลส่ง พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ส่ง บัญญัติ เจตนจันทร์ ที่ได้อันดับ 3 จากครั้งที่แล้วลงแข่ง

ในขณะเดียวกัน ท่าทีของประชาธิปัตย์แม้ทอดไมตรีอยากร่วมรัฐบาลเต็มแก่ ได้ประสานไปยังพรรคพลังประชารัฐเพื่อหลีกทางให้พรรคประชาธิปัตย์ทวงคืนพื้นที่จังหวัดระยอง แม้ต้องตกรถไฟขบวนสุดท้ายและลามกลายเป็นความขัดแย้งภายในพรรคจนฝีใกล้แตกเต็มที

วันนี้กระแสพรรคก้าวไกลยังจุดติดแม้ต้องตกมาเป็นฝ่ายค้าน ทั้งๆ ที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดในสภา รวมทั้งยังย้ำจุดยืนเดิมอย่างหนักแน่นว่ามีลุงไม่มีเรา ทำให้ยังได้ใจแฟนคลับของพรรคต่อเนื่อง แม้ว่าพรรคจะต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้านอีกครั้ง

การเลือกตั้งครั้งนี้ ยังเป็นศึกล้างตาอีกครั้งระหว่างตระกูลการเมืองเก่ากับการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการเลือกตั้งเชิงนโยบายเพราะ จ.ระยอง มีรูปแบบคล้าย จ.ชลบุรี อิทธิพลตระกูล “ปิตุเตชะ” แม้คนในตระกูลจะไม่ได้ลงสมัครเองก็ตาม แต่เครือข่ายอำนาจของ “ปิตุเตชะ” ที่ยังมีอำนาจอยู่ ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

บทพิสูจน์ “ปิตุเตชะ” บ้านใหญ่ยังสามารถรักษาอำนาจได้หรือไม่ หรือจะพ่ายแพ้ให้การเมืองแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงในเชิงความคิด นโยบาย ความเชื่อของคน ถ้าครั้งนี้พรรคก้าวไกลชนะ จะยืนยันว่าคนระยองเริ่มมีวิธีคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น เป็นจุดหนึ่งที่จะสร้างโอกาสให้กับพรรคก้าวไกลในระยะยาว

แต่ที่น่าสนใจคือ กระแสสังคมต่อรัฐบาลข้ามขั้ว คนที่ประชาชนเลือกให้มาเป็นรัฐบาล แต่เกิดอุปสรรคจากกลุ่มอำนาจเก่าที่ไม่ยอมให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรี และถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สร้างความไม่พอใจต่อกระแสสังคมในขณะนี้

และทันทีที่พรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งรัฐบาล กระแส Digital Footprint (ดิจิทัลฟุตพรินต์) หรือ รอยเท้าบนโลกดิจิทัล ที่เก็บประวัติทางพฤติกรรมคนของพรรคเพื่อไทยในการแสดงความคิดเห็นทั้งก่อนและหลังเลือกตั้งก็หลั่งไหลมาอยู่ในโลกโซเชียล ก็กำลังดิสเครดิตและกลืนกินพรรคเพื่อไทยไปทีละเล็กละน้อย

น่าเสียดายที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัครลงสนามครั้งนี้ คงเป็นเพราะรู้ว่าหากส่งผู้สมัครท่ามกลางกระแสแบบนี้ ขณะที่ประชาชนขุ่นเคืองในประเด็นข้ามขั้วการเมือง ขืนส่งผู้สมัครแล้วพ่ายแพ้ขึ้นมา จะยิ่งแสดงว่าพรรคเพื่อไทยถดถอยมากขึ้น จึงไม่กล้าเสี่ยงในสถานการณ์ที่ตกต่ำ คือ รู้ว่าลงไปก็แพ้ สู้อยู่เฉยๆ ดีกว่า

การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 ระยองครั้งนี้ ผลจึงตกมาที่พรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังรอรับแรงกระแทกจากสังคมที่ไม่พอใจรัฐบาลเพื่อไทยที่ทำลายหลักการนักการเมือง ความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ที่หลักการของพรรคถูกทำลายจากการโหวตหนุนรัฐบาลเพื่อไทย

การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงเสียหรือได้เพิ่ม ส.ส. 1 ที่นั่งเท่านั้น แต่ความรู้สึกของประชาชนกำลังส่งแรกกระแทกมาที่ผลการเลือกตั้ง

นอกจากจะสะเทือนถึงพรรคประชาธิปัตย์ อาจส่งเสียงเตือนถึงรัฐบาลใหม่อย่างช่วยไม่ได้…

พันธศักดิ์ รักพงษ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image