| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ภาษาอีสาน คำว่า โสตาย แปลว่า ยอมตาย, ยอมสละชีวิต, ทำอย่างไม่คิดชีวิต
ที่ยกคำอีสานขึ้นมากล่าวถึง
ด้วยตอนนี้ คนไทยประมาณ 30,000 คน ส่วนใหญ่เป็น “คนอีสาน”
กำลังเผชิญชะตากรรมอันเลวร้าย ในสมรภูมิ “อิสราเอล”
เลวร้าย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย จากการได้รับผลกระทบ จากการสู้รบระหว่างคนอิสราเอล กับคนปาเลสไตน์
เลวร้ายกับ “อนาคต” ของตนเอง และครอบครัว ที่ไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เมื่อต้องเดินทางกลับบ้านเพื่อรักษาชีวิต
จะต้อง “โสตาย” กลับไปทำงานที่โน่นต่อ
เพราะมีภาระเรื่องหนี้สิน จากการไปกู้เงินมาจ่ายค่านายหน้า เพื่อทำงานที่อิสราเอล
รวมทั้งต้องแบกภาระที่จะต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ที่รออยู่ทางนี้
ทางเลือกของ “นักรบแรงงาน” จากอีสานเหล่านี้ จึงมีไม่มากนัก
และไม่ว่าเลือกทางไหน ก็อยู่ในภาวะ “โสตาย” ทั้งสิ้น
จะหวัง พึ่งพิงทางการรัฐบาล ก็คงยาก
เพราะลำพังแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จะพาคนไทยร่วม 6,000 คน กลับจากอิสราเอล ก็เหนื่อยหนักแล้ว
และเมื่อกลับมาแล้ว จะให้มาร่วมฝันกับรัฐบาลใหม่ ที่กำลังผลักดัน นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 ก็ยากพอๆ กัน
เนื่องจากรัฐบาลเอง ก็อยู่ในภาวะโสตายทางการเมือง ไม่ต่างกัน
ด้วยโครงการดังกล่าวไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง มีการท้วงติงจาก นักเศรษฐศาสตร์ นักการธนาคาร นักวิชาการ ชั้นนำ อย่างหนัก
ขณะที่องค์การอิสระอย่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็เริ่มเข้ามากลั่นกรอง ตรวจสอบ ตามเสียงคัดค้านว่าโครงการนี้ จะก่อปัญหาให้กับเศรษฐกิจประเทศ มากกว่าจะเป็นความหวังอันรุ่งโรจน์ทางเศรษฐกิจอย่างที่ฝ่ายการเมืองเสนอ
ซึ่งแม้จะมีเสียงคัดค้านหนักหน่วงเพียงใดก็ตาม
แต่รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ใช้เรื่องนี้เป็นเรือธง ของตนเอง ก็คงถอยไม่ได้
ต้องนำทัพ ลุย “สมรภูมิแจกเงินดิจิทัล 10,000” สถานเดียว
ซึ่งจะไม่มีปัญหาเลย หากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย มีความแจ่มชัดในนโยบายนี้ ตามสโลแกนรณรงค์หาเสียงของพรรค “คิดใหญ่ ทำเป็น”
คิดใหญ่ นั่น ใช่แน่
แต่ “ทำเป็น” อันนี้ยังเป็นปัญหาใหญ่
ด้วยต้องยอมรับว่า จนถึงตอนนี้ รัฐบาล ก็ยังมีคำอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน แจ่มชัด ไม่ได้
เมื่ออธิบายไม่ได้ น้ำหนักของการคัดค้านก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
และที่เพิ่มขึ้นนั้น แน่นอน ย่อมมีโจทก์เก่า ที่เป็นอริกับพรรคเพื่อไทย เป็นอริกับระบอบ “ทักษิณ” พ่วงเข้ามาด้วย
จากประเด็นทางเศรษฐกิจ ก็นำไปสู่ประเด็นทางการเมือง
และอาจบานปลายไปถึงประเด็น การล้ม-ไม่ล้มรัฐบาล เข้ามาเพิ่มให้ร้อนระอุ เข้าไปอีก
ซึ่งตรงนี้ ก็เริ่มมีคนมองไปถึง พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ว่าจะยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่
หรือเริ่มยืนเอามือกอดอก ด้วยพรรคที่ร่วมรัฐบาลตอนนี้ ส่วนใหญ่เคยยืนอยู่คนละขั้วกับพรรคเพื่อไทย
และเคยอาศัย มือขององค์กรอิสระ สมาชิกวุฒิสภา และนักวิชาการปีกอนุรักษนิยม เข้ามาฟาดฟันกับพรรคเพื่อไทย ในยุครัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแล้ว
เมื่อรูปแบบเก่าๆ บรรยากาศเดิมๆ หวนมาอีกครั้ง พรรคร่วมจะยินดี ถึงไหนถึงกันกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่
นี่เป็นสภาวการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ดีเอาเสียเลยสำหรับพรรคเพื่อไทย
แต่ก็นั่นแหละ พรรคเพื่อไทย คงถอยไม่ได้ ต้อง “โสตาย” ลุยไปข้างหน้า
ตอนนี้เลยเกิดสภาพ “2 สมรภูมิ” ทั้งสมรภูมิอิสราเอล-สมรภูมิเงินหมื่นดิจิทัล และ “2 โสตาย” อย่างที่เห็น
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
