สถานีคิดเลขที่12 : ทำตามสัญญา

สถานีคิดเลขที่12 : ทำตามสัญญา ดิจิทัลวอลเล็ต ลายเป็นประเด็น

ดิจิทัลวอลเล็ต กลายเป็นประเด็นที่มีการกล่าวถึงมากขึ้น
ความจริงแล้วนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกคนละ 1 หมื่นบาทนี้ดังกระหึ่มมาตั้งแต่พรรคเพื่อไทยประกาศเป็นนโยบายหาเสียง
หากจำได้เมื่อพรรคก้าวไกลประกาศจัดตั้งรัฐบาล แล้วพรรคเพื่อไทยบอกว่า ต้องหยุดการดำเนินนโยบายดังกล่าว เพราะเงินไม่พอ หลายคนคงเสียดาย
แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง การดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกคนละ 1 หมื่นบาทกลับมา
และกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายรัฐบาล

ความจริงแล้ว การใช้เงิน 5.6 แสนล้านบาทแจกประชาชนนี้ถือเป็นบิ๊กแบงทางเศรษฐกิจของไทย
รัฐบาลเชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ระยะหลังได้มีเสียงคัดค้าน บ้างก็เห็นว่าประเทศไทยยังไม่อยู่ในวิกฤตขนาดนั้น บ้างก็ห่วงใยหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้น บ้างก็คิดไปถึงการทุจริตคอร์รัปชั่น
ฟังแล้วเป็นข้อเห็นต่าง คือ เห็นแตกต่างจากรัฐบาล

เป็นข้อเห็นต่างที่เกรงว่าจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
เพียงแต่รัฐบาลที่ใช้เรื่องนี้หาเสียง และมั่นใจว่ารัฐบาลนี้ไม่เพียงแต่จะให้ประชาชนมีเงินใช้จ่าย ลดภาระครัวเรือน
นโยบายนี้ยังจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการได้เงิน แล้วเศรษฐกิจของประเทศก็จะเติบโต
แถมท้ายๆ ยังมีเสียงประชาชนออกมาทวงนโยบายนี้
ดังนั้น รัฐบาลคงหลีกเลี่ยงการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกหัวละ 1 หมื่นบาทไปได้ยาก

ล่าสุด อ่านจากโพสต์ของประธานที่ปรึกษานายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ตอบโต้การด้อยค่าดิจิทัลวอลเล็ต ด้วยการกล่าวหาว่าเป็น “เงินเลว” ยิ่งเข้าใจมุมมองของรัฐบาล
ขอคัดเอาข้อความที่ไม่พาดพิงถึงตัวบุคคล

Advertisement

“1.คำว่า เงินเลว (Bad Money) เป็นคำที่ผู้บริหารการคลังของอังกฤษ คือ Sir Thomas Gresham ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1558 (พ.ศ.2101) แต่มาโด่งดังจนเป็นรู้จักกันในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่า Gresham’s Law ใน ค.ศ.ที่ 19 ซึ่งหากจะพยายามนำมาใช้กับกรณีนี้ ผมตีความในทางบวกได้ว่า เงินที่ว่าเลวนั้น สามารถทำหน้าที่ของการเป็นตัวกลางของการจับจ่ายใช้สอยที่ดีเมื่อลดความน่าเก็บสะสม ซึ่งเราทุกคนย่อมทราบดีว่าในยามที่เราจำเป็นต้องกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การมีเงิน หรือรับเงินไปแล้วถูกใช้จ่ายในกรอบเวลา และใช้จ่ายไปกับสิ่งที่พึงประสงค์ จะกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี เงินเลว (Bad Money) จึงเป็นเงินที่ดี ตามภารกิจได้”

“2.ในปัจจุบัน คือ ค.ศ.2023 (พ.ศ.2566) ของเขตเศรษฐกิจสำคัญของเอเชีย ใกล้บ้านเราคือ ฮ่องกง ก็ใช้
จากข่าว…
“ประชาชน ‘ชาวฮ่องกงทุกคน’ ได้รับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท โดยรับเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2566 จำนวน 3,000 เหรียญ และหากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิ.ย. ก็ได้รับ อีก 2,000 เหรียญ ที่เหลือตามสิทธิเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2566”
“นอกจากนั้น นักเรียน หรือผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 เหรียญฮ่องกงด้วย”
นายกิตติรัตน์ระบุว่า “ท่านคิดไหมว่าการมอบเงินดิจิทัลที่มีเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ถูกด้อยค่าว่าเป็นเงินเลวนั้น แท้ที่จริงเป็นเงินดีตามภารกิจกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”

มาถึงจุดนี้แล้วรัฐบาลเดินหน้าแน่ เพราะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

Advertisement

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image