สงคราม-สันติภาพ บททดสอบปัญญาการเมืองภูมิรัฐศาสตร์

สงคราม-สันติภาพ บททดสอบปัญญาการเมืองภูมิรัฐศาสตร์

2024 น่าจะเป็นปีที่ส่งสัญญาณว่าจะเกิดสงคราม หรือสู่สันติภาพ ทั้งนี้ เนื่องจากที่ยุโรป สงครามรัสเซีย-ยูเครนเข้าสู่ปีที่ 3 ยูเครนตอบโต้ไร้ผล การช่วยเหลือของตะวันตกลดน้อยลงไป ขาด
งบประมาณในการทำศึก

ที่ตะวันออกกลาง สงครามฉนวนกาซายังไม่ยุติ ทหารอิสราเอลโจมตีพร่ำเพรื่อ ภายในอิสราเอล มีกองกำลังทหาร “โปรปาเลสไตน์ต้านอิสราเอล” เริ่มเคลื่อนไหว เรือพาณิชย์ที่ทะเลแดงถูกยิง เหตุการณ์ทวีความรุนแรง

ที่เอเซียแปซิฟิก ไต้หวันมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี น่าจะสั่นคลอนเสถียรภาพแห่งสัมพันธไมตรีของสองฝั่งช่องแคบ สันติภาพหาใช่เป็นเรื่องที่ยอมรับ หรือเพื่อรับไม่

Advertisement

ที่สหรัฐ มีการเลือกตั้งปรธานาธิบดีปลายปี อันอาจเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐขาดความมั่นคง

ปัญหาไต้หวัน อาจเป็นเหตุให้สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์เกิดความรุนแรง ความเสื่อมอาจมาเยือน

ย้อนมองปี 2023 ที่ผันผ่าน สหรัฐและยุโรปได้ประสบปัญหาในเวทีการเมืองโลกนานัปการ แม้ยังไม่เกิดภัยพิบัติ แต่ดูเหมือนว่า ดำรงอยู่ในทิศทางที่สวนกับกระแสของโลก พลังแห่งอำนาจ ทยอยเปลี่ยนทิศและจากไป

Advertisement

ไม่ว่าสงครามยูเครน-รัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ไม่ว่าสงครามฉนวนกาซาเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ล้วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โลกหนึ่งร้อยปีไม่เปลี่ยนก็กำลังเริ่มเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

จึงพอจะอนุมานได้ว่า ตารางการเปลี่ยนแปลงไม่เพียงยืดเยื้อ หากยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ อาจส่งผลกระทบให้เกิดสงคราม หรือสันติภาพ คือ ปุจฉา

สายตาของตะวันตก เบื้องหลังของสงครามยูเครน คือ ความทะเยอทะยานของปูตินที่จะขยายอาณาจักรแห่งจักรวรรดิ ในขณะที่สายตาของรัสเซีย การทำสงครามก็เพื่อระงับองค์กรนาโตมิให้ขยายขอบเขตมายังตะวันออก

ยูเครนจึงกลายเป็นสนามรบของรัสเซียและสหรัฐ เบื้องต้นรัสเซียประเมินว่าสามารถเอาชนะได้โดยง่าย หากเป็นความเชื่อที่อยู่เหนือเหตุผล ส่วนตะวันตกมองว่าการแซงชั่นและพิชิตรัสเซียและปูติน และภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐและยุโรป ยูเครนสามารถเอาคืนซึ่งพสุธา แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามในปริโยสาน

สหรัฐด้านหนึ่งต้องรีบทำการสกัดจีน อีกด้านหนึ่งต้องรับศึกรัสเซีย จึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะดูแลตะวันออกกลาง วอชิงตันจึงพยายามผลักดันให้บรรดาประเทศอาหรับคืนดีกับอิสราเอล

เพื่อเจตนาในการปรับโครงสร้างใหม่เกี่ยวกับวินัยตะวันออกกลาง เพื่อให้สหรัฐสามารถถอนตัวออก ทว่า การพัฒนาเช่นว่า เป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์ถูกทอดทิ้งและต้องเลือกข้าง การที่กลุ่มกำลัง
ฮามาสจู่โจมอิสราเอลอย่างกะทันหันเมื่อเดือนตุลาคม 2023 เป็นเหตุให้คนเสียชีวิตพันกว่าคนนั้น ก็มาจากสาเหตุดังกล่าว

การทำลายกองกำลังฮามาสของอิสราเอล เป็นเหตุให้คนเสียชีวิตกว่าสองหมื่นคน เสียงวิพากษ์ของสังคมนับวันดังขึ้น รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้นำคดีขึ้นสู่ศาลโลก โดยกล่าวหาอิสราเอลทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เหตุเกิดที่ฉนวนกาซา ในเวลาเดียวกันก็มีประเทศอาหรับตลอดจนประเทศทั่วโลก ซึ่งมิใช่ตะวันตก วิจารณ์สหรัฐและตะวันตกว่า เปี่ยมด้วยพฤติการณ์
เสแสร้ง วิพากษ์ทหารรัสเซียโจมตียูเครน โดยไม่กล่าวหาการโจมตีอย่างพร่ำเพรื่อของอิสราเอล
ความจริงก็คือสองมาตรฐาน

บัดนี้ มาตรการสร้างวินัยตะวันออกกลางใหม่ล้มเหลวแล้ว ประเด็นที่แตกต่างกับยูเครนคือฉนวนกาซาคือ ดินแดนแห่งกระสุนตก แต่เชื่อว่าการจู่โจมขนาดใหญ่คงมีวันชะลอ แต่มิได้หมายความว่าสงครามจะยุติ

นอกจากนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ถ้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าชนะการเลือกตั้ง และถ้าไทเปไม่คำนึงการเหยียบเส้นแดงเอกราชไต้หวัน สันติภาพช่องแคบอาจถูกทำลายโดยพลัน

ความสับสนของปัญหาไต้หวัน ประเด็นสำคัญขึ้นอยู่กับสหรัฐ เพราะนักการเมืองสนุกกับการสกัดจีน โดยใช้บริการไต้หวัน เสมือนเป็นเบี้ยตัวหนึ่ง อนึ่ง 2024 เป็นปีเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐ จึงไม่แปลกที่นักการเมืองอาจนำเอาประเด็นไต้หวันมาเป็นการเรียกแขก เอาใจผู้มีสิทธิลงคะแนน เหตุการณ์ใดๆ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้

ปี 2023 หลังจากการประชุมสุดยอดสี จิ้นผิง-โจ ไบเดน ดูเหมือนสัมพันธภาพจีน-สหรัฐมีความเสถียรในระดับหนึ่ง ประมุขทั้งสองตกลงยินยอมควบคุมมิให้เกิดการแตกแยก หลีกเลี่ยงการปะทะกัน ทว่า การเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งของสหรัฐ อาจเป็นการทำลายที่ไม่อาจมีผู้ใดสามารถคาดเดาได้

แม้สถานการณ์โลกหนึ่งร้อยปีไม่เปลี่ยน แต่อาจนำมาซึ่งสงครามในปีนี้ ประเด็นที่จะต้องวินิฉัย
คือ ทุกฝ่ายต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ บรรดาประเทศเบอร์ใหญ่ควรต้องยึดถือผลประโยชน์หลักเป็นที่ตั้งและเคารพซึ่งกัน ปี 2024 อาจเป็นจุดพลิกผันให้เกิดสงครามหรือสันติภาพ

ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับภูมิปัญญาทางการเมืองของภูมิรัฐศาสตร์

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image