พยัคฆ์ซ่อน มังกรซุ่ม : เร้นกาย ซุ่มซ่อน ใต้ ‘ลิ้น’ แห่ง ‘งูพิษ’ เสาะหา ‘พยัคฆ์’

พยัคฆ์ซ่อน มังกรซุ่ม : เร้นกาย ซุ่มซ่อน ใต้ ‘ลิ้น’ แห่ง ‘งูพิษ’ เสาะหา ‘พยัคฆ์’

หากใครอ่าน “ไซ่ฮั่น” ตั้งแต่เมื่อพระเจ้าฌ้อปาอ๋องสถาปนาเพ่ยกงหรือเล่าปังขึ้นเป็น
“ฮั่นอ๋อง” และสั่งการให้เดินทางไปยังปาสู่หรือที่เรียกว่าเสฉวนในภายหลัง
ต้องยอมรับว่า “สมการ” ของจางเหลียงไม่มี “หานซิ่น”
แม้กลยุทธ์ของจางเหลียงที่สมคบกับตันแผงและเซี่ยงป๋อก็เพื่อสร้างโอกาสให้กับเพ่ยกง และมิให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องจัดการกับเพ่ยกงตามแผนอันแยบยลที่ฟานเจิงจัดวางเอาไว้
จางเหลียงจึงเดินทางร่วมขบวนไปกับฮั่นอ๋องและมอบความเชื่อมั่นไว้กับเซียวเหออย่างเป็นด้านหลัก
จึงเดินทางออกจากโปต๋งพร้อมกับแผนวางเพลิง เผาสะพาน
ด้านหนึ่งก็เพื่อตัดหนทางมิให้พระเจ้าฌ้อปาอ๋องส่งกำลังเข้าจัดการกับฮั่นอ๋อง ด้านหนึ่ง ก็เพื่อให้ฮั่นอ๋องร่วมกับเซียวเหอสะสมกำลังสร้างความแข็งแกร่ง
แล้วจางเหลียงก็เดินทางกลับมายังเสียนหยาง

เส้นทางของจางเหลียงนับแต่วางเพลิงเผาสะพานจั่นโต๋มาเป็นเส้นทางอันสัมพันธ์กับเซี่ยงป๋องและหานซิ่นอย่างค่อนข้างพิสดาร
รายละเอียดเรื่องนี้ต้องศึกษาจาก “ไซ่ฮั่น” ฉบับวังหลัง
ฝ่ายจางเหลียงครั้งเผาสะพานจั่นโต๋แลป่าแล้วก็รีบมาใกล้ด่านอันเบ๋งก๋วนเกือบจะถึงบ้านโปเต้พบคนขวางทางอยู่ก็ขับม้าไปและได้ยินเสียงคนร้องว่า
“จางเหลียงท่านจะหนีไปไหน ฟานเจิงให้มาคอยท่าหาตัวท่าน”
จางเหลียงได้ฟังก็ตกใจ ขณะขยับจะลงจากหลังม้าก็ได้ยินเสียงสำทับตามมาอีก “เซี่ยงป๋อ นายข้าพเจ้าเห็นว่าทางกันดารจึงให้มาคอยรับ”
นี่ย่อมเป็น “ลูกเล่น” ของเซี่ยงป๋อ
เห็นและรู้เช่นนั้นจางเหลียงมีความยินดียิ่งนัก จึงว่า “เราขอบคุณนายท่านหาที่สุดไม่ได้ สมควรจะเป็นเพื่อนรักกันได้”
ว่าแล้ว จางเหลียงก็เข้าไปยังบ้านเซี่ยงป๋อ ณ เมืองเสียนหยาง

ครั้นเวลาบ่าย จางเหลียงลาออกมานอกบ้านก็เปลี่ยนเสื้อกางเกงใส่ใหม่ หวังจะให้ชาวเมืองเสียนหยางเห็นแปลก
แล้วเที่ยวไปจะใคร่ถามถึงกีเส็ง ซึ่งเป็นหานอ๋อง
ได้ความจากชายผู้หนึ่งว่า “หานอ๋องได้เข้ามาหาฌ้อปาอ๋อง แต่ฌ้อปาอ๋องโกรธหาว่ามาช้ากับแคลงใจด้วยจางเหลียงตามฮั่นอ๋องไป จึงให้ฆ่าฮั่นอ๋องเสียเพิ่งเอาศพไปเมืองหานได้สองวัน”
จางเหลียงครั้นได้แจ้งก็ตกใจ
กลับมาบ้านร้องไห้ให้หานอ๋องจนรุ่งสว่าง ต่อตอนเช้าจางเหลียงจึงไปหาเซี่ยงป๋อ พูดว่า
“ข้าพเจ้าจะขอลาไปเมืองหาน”
เซี่ยงป๋อสงสัย จึงถามว่า “ตัวท่านมาถึงเราได้สองวันจะกลับไปเมืองหานนั้นด้วยเหตุประการใด”
จางเหลียงจึงบอกว่า “ไปเที่ยวสืบหาข่าวว่าฌ้อปาอ๋องแคลงใจด้วยข้าพเจ้าด้วยตามเพ่ยกงไปเมืองโปต๋งจึงฆ่าหานอ๋อง ความทุกข์ของข้าพเจ้าครั้งนี้เหมือนจะตายตามหานอ๋อง ได้แต่จะขอลาท่านไปแทนคุณฝังศพหานอ๋องด้วย
แลครอบครัวยังระหกระเหินอยู่จะรวบรวมไว้ให้เป็นปกติก่อน ในเดือนนี้จะกลับมาหาท่าน”
เซี่ยงป๋อจึงว่า “เรามีความรักจึงให้ไปรับท่าน แม้จะอยู่ช้ามิได้ถึงท่านจะรีบไปก็ต้องเร่งกลับมา”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าจางเหลียงเป็นคนเมืองหาน

ความสัมพันธ์ระหว่างจางเหลียงกับหานอ๋องเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งจึงเป็นภาระที่จะต้องไปจัดการศพของหานอ๋อง
ที่สำคัญ หานอ๋องถูกประหารก็เพราะจางเหลียง
1 หานอ๋องยินยอมให้เพ่ยกงยืมตัวจางเหลียงไปทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษา” ยิ่งกว่านั้น 1 จางเหลียงยังตามขบวนทัพของฮั่นอ๋องไปยังทิศประจิมอันเป็นประตูเข้าสู่เมืองโปต๋ง
สะท้อนให้เห็นสายสัมพันธ์ระหว่างจางเหลียงกับเพ่ยกง
ทั้งหมดนี้ย่อมเพาะเป็นความแค้นให้กับฌ้อปาอ๋องอย่างล้ำลึก ไม่ว่าต่อหานอ๋อง ไม่ว่าต่อเพ่ยกง ไม่ว่าต่อจางเหลียง
ฉะนั้น จงอย่าแปลกใจใน “ปฏิกิริยา” และ “ท่าที” อันตามมา

Advertisement

เป็นปฏิกิริยาอันมาจากจางเหลียง เป็นท่าทีและการแสดงออกของจางเหลียงเมื่อเดินทางถึงเมืองหาน
นี่ย่อมเป็น “ขนบ” แห่ง “จอมยุทธ์” นับแต่ปลายแผ่นดินฉิน กระทั่งถึงปลายแผ่นดินชิง
แต่งเครื่องคำนับเซ่นศพหานอ๋องแล้วก็ร้องไห้เกลือกกลิ้งรำพัน
“ท่านให้ข้าพเจ้าไปกับเพ่ยกง ฌ้อปาอ๋องคิดแคลงจึงฆ่าท่านเสีย ท่านมาตายเพราะข้าพเจ้าครั้งนี้ข้าพเจ้าจะคิดฆ่าฌ้อปาอ๋องให้จงได้”
เห็นดังนั้นบรรดาบุตรหานอ๋องกล่าวกับจางเหลียงว่า
“ถ้าท่านรักบิดาเราโดยแท้จงคิดจัดแจงไปฝังเสียก่อน”
จางเหลียงจึงปรึกษาพร้อมกับเชิญศพหานอ๋องไปฝังไว้ ณ ที่อันสมควรตามธรรมเนียมแล้วกลับมาบ้าน จัดแจงครอบครัว รวบรวมให้อยู่เป็นปกติ
เสร็จแล้วจึงเรียกคนสนิทรีบออกจากเมืองหานไปยังเมืองเสียนหยาง

ชีวิตจางเหลียงห้วงนี้ดำเนินไปในลักษณะอันเรียกได้ว่า “พยัคฆ์ซ่อน” อย่างแท้จริง ซุ่มอยู่เมืองเสียนหยางและอยู่บ้านเซี่ยงป๋อ
เป็นการพึ่ง “บารมี” เซี่ยงป๋อซึ่งเป็นอาของ “ฌ้อปาอ๋อง”
เมื่ออยู่กับเซี่ยงป๋อแลกเปลี่ยนสนทนากัน กระทั่งเซี่ยงป๋อคิดจะทูลฌ้อปาอ๋องตั้งแต่งให้เป็นขุนนาง
แต่จางเหลียงก็ปฏิเสธอย่างนุ่มเนียน
“นายเก่าก็ตายไปแล้ว” นี่ย่อมหมายถึงหานอ๋อง “ทั้งตัวก็เกิดโรคภัยต่างๆ หาสบายไม่”
พร้อมกันนั้นก็ร่ายยาว “บทเรียน” ใน “อดีต”
“ทุกวันนี้ไม่รักเป็นขุนนางจะเอาเยี่ยงอย่างโลจู๊ กับ เทียนเป๊ก อันเป็นคนสนิทซึ่งมีวิชาเที่ยวอยู่แต่ที่สงัด มิดังนั้นดุจหนึ่งเป็กจี๋กับซัดเจ๊ พี่น้องสองคนเป็นขุนนางในติวอ๋อง
เตียวอ๋องมิได้อยู่ในยุติธรรม ติวอ๋องก็มิฟัง จึงหนีไปอยู่เขาลิวเอียง
แลใจข้าพเจ้ารักจะอยู่ป่าที่สบาย สืบหาคนมีวิชา พอได้เล่าเรียนหาความสุขนั้น เห็นใครจะค่อยบรรเทา
ไม่มีที่เจ็บแค้น ได้ชมภูเขาแลปาเล่นให้สบาย”

หากมองจากด้านของจางเหลียงย่อมเป็นกระบวนท่าแห่ง “พยัคฆ์ซ่อน” หากมองจากด้านของเล่าปัง เพ่ยกง ฮั่นอ๋อง ย่อมเป็นกระบวนท่าแห่ง “มังกรซุ่ม”
น่าสนใจที่จางเหลียงซ่อนตัวอยู่ในปากงูพิษ
หากถือว่าเสียนหยางอยู่ในเขตอิทธิพลของฌ้อปาอ๋อง หากถือว่าฌ้อปาอ๋องคุมแค้นต่อหานอ๋องที่ปล่อยให้จางเหลียงตกไปอยู่ในมือของฮั่นอ๋อง
คุมแค้นถึงกับประหารอย่างเลือดเย็น
เมื่อฌ้อปาอ๋องถือว่าฮั่นอ๋องคือศัตรู ถือว่าหานอ๋องเป็นศัตรู แล้วจางเหลียงจะรอดไปได้อย่างไร
การเข้ามาอยู่ในบ้านของเซี่ยงป๋อย่อมเป็นการเสี่ยง
แต่ภายในการเสี่ยงเข้ามาอยู่ในบ้านของเซี่ยงป๋อนั้นเองทำให้จางเหลียงได้อ่านหนังสือของหานซิ่น
และยึดถือเอาหานซิ่นเป็นเป้าในการช่วงชิง

Advertisement

สายตาของจางเหลียงที่มองหานซิ่นจึงไม่แตกต่างไปจากสายตาของฟานเจิงที่มองหานซิ่นและชี้แนะต่อฌ้อปาอ๋องมาแล้ว
เพียงแต่ฌ้อปาอ๋องไม่เห็นด้วย
นี่ย่อมเป็นโอกาสอันเปิดกว้างอย่างยิ่งให้กับจางเหลียง นี่ย่อมเป็นจังหวะก้าวของจางเหลียงที่เล่นบทพยัคฆ์ซ่อน
เกาะติดไปยังมังกรระดับหานซิ่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image