ศัตรูในจินตนาการ

ศัตรูในจินตนาการ

การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น “โจ ไบเดน” ไม่ว่าจะเป็น “โดนัลด์ ทรัมป์” ล้วนมุ่งประเด็นจีนคือ “ศัตรูในจินตนาการ” เพื่อเปรียบเทียบว่านโยบายที่มีต่อจีนของผู้ใดดุเดือดกว่ากัน ซึ่งเกิดจากระบอบการเมืองประชานิยม นำมาซึ่งผลทางลบแก่สหรัฐ เป็นการปิดล้อมตัวเองโดยปริยาย กรณีถือเป็นผลสะท้อนที่เรียกว่า Boomerang Effect อันเป็นการทำลายสหรัฐในทางธุรกิจ และเป็นเหตุให้ธุรกรรมทางการเมืองแตกแยก กรณีจึงไม่เกินความคาดหมาย พลันที่การหาเสียงเลือกตั้งเริ่มขึ้น ประเทศจีนก็กลายเป้าทันที

การที่สหรัฐใช้เงินดอลลาร์เป็นอาวุธคือความพ่ายแพ้อย่างใหญ่หลวง ความจริงเงินดอลลาร์สหรัฐคือเงินตราที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ระบบเงินดอลลาร์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกมาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดสงครามยูเครน สหรัฐได้ยกเลิกแพลตฟอร์มการใช้บริการรับส่งข้อความทางการเงินกับประเทศส่วนหนึ่ง (Swift) สำหรับการทำธุรกรรม ซึ่งได้แก่ รัสเซียและประเทศที่มีจุดยืนต่างกับสหรัฐ

จึงเป็นเหตุให้สังคมกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการครอบครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐ เพราะพวกเขาตระหนักว่า การซื้อขายด้วยระบบดอลลาร์อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบ จึงมีประเทศส่วนหนึ่งถวิลหาวิธีการทำธุรกิจด้วยระบบเงินตราของประเทศตน และมีจำนวนมากขึ้นทุกขณะ เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องใช้ดอลลาร์สหรัฐเพียงสกุลเดียวทำธุรกรรม การหาช่องทางใหม่เป็นการรังสรรค์ระบบเงินตรา
ซื้อขายให้หลากหลาย และปราศจากการครอบงำของลัทธิฝ่ายเดียว อีกทั้งเป็นการผลักดันให้ระบบการคลังไม่ต้องพึ่งพิงสหรัฐอีกต่อไป จึงเท่ากับเป็นการประกาศการใช้อำนาจในการครอบงำด้วยดอลลาร์สหรัฐ
ได้สิ้นสุดลงแล้ว

Advertisement

สังคมจึงเหน็บแนมว่า รัฐบาลไบเดนได้กลายเป็น “คนขุดหลุมฝังศพ” ให้แก่ตนโดยไม่รู้ตัว

กระแส “ไม่พึ่งพิงดอลลาร์สหรัฐ” ได้เริ่มจากคลื่นใต้น้ำกลายเป็นคลื่นยักษ์

บัดนี้ “โลกที่สาม” (โลกใต้) และกลุ่มประเทศแถบทวีปยูเรเซีย ซึ่งอยู่ในฐานะที่แตกต่างกันต่างได้แจ้งเตือนสหรัฐเกี่ยวกับ “การทูตสองมาตรฐาน” คือ “ข้าพเจ้าทำได้ ท่านทำไม่ได้” นั้น เป็นการทำลายหลักการของเศรษฐกิจเสรี กร่อนเซาะบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจตลาด โดยการแปลงการค้าสากลให้เป็นอาวุธ สร้างกำแพงภาษีสินค้านำเข้า จีนกลายเป็นประเทศที่รับเคราะห์กรรมมากที่สุด เริ่มตั้งแต่ธุรกิจห่วงโซ่ตลอดจนบุคลากรล้วนได้ถูกสหรัฐครอบงำ สังคมไม่เห็นชอบกับพฤติกรรม

Advertisement

ดังนั้น จึงมีนักวิชาการในยุโรปจำนวนไม่น้อยไม่พอใจรัฐบาลสหรัฐ และพูดกันจนกลายเป็นภาษาที่นิยมว่า

“เป็นศัตรูกับอเมริกันคือเรื่องอันตราย เป็นมิตรกับอเมริกันคือความตาย”

ประวัติศาสตร์บอกเราว่า คราบเลือดที่สมรภูมิย่อมเป็นสักขีพยานที่ประเสริฐสุด

ปี 2021 ท่ามกลางภาวะการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน รัฐบาล “ในคาถา” ของสหรัฐถูกทอดทิ้งโดยพลัน เป็นเหตุให้กองกำลังทาลิบันทำการล้างผลาญจนราบเป็นหน้ากลอง

ปี 1975 ครั้นทหารอเมริกันพ่ายแพ้ที่ไซ่ง่อน จึงได้ถอนทหารออกทั้งหมด ทหารเวียดนามหลายแสนนายและรัฐบาลภายใต้อาณัติ ได้พังทลายราบคาบหมดที่พึ่ง

แม้วันนี้ สหรัฐใช้ยุทธศาสตร์รอบใหม่ทำการปิดล้อมจีน แต่จีนก็ยังดำรงอยู่ในกรอบของมารยาทและปัญญา ยืนยันการเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการยุติ

ธุรกิจขนาดใหญ่ของสรัฐยังมีความเชื่อมั่นตลาดการค้าของจีน เช่น สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ เคนตั๊กกี้ล้วนได้ขยายการลงทุนในประเทศจีน และได้รับส่วนแบ่งตลาดในปริมาณมาก เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของชนชั้นกลางในประเทศจีน ถือว่าเป็นตลาดบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ความจริงนักธุรกิจอเมริกันได้วางแผนการลงทุนในประเทศจีนไว้แล้ว ชั่วแต่รัฐบาลและนักการเมืองสหรัฐเข้าทำการสกัด ขัดขวางกีดกัน กวนน้ำให้ขุ่น เหตุการณ์ไม่ต่างไปจากการตีปลาหน้าไซ

จึงปฏิเสธมิได้ว่าจุดบอดของการเมืองสหรัฐ การเมืองเลือกตั้งเป็นเหตุทำให้ความแตกแยกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่านักธุรกิจ ไม่ว่านักเศรษฐศาสตร์ได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การปิดล้อมจีน เท่ากับต่อต้านทั่วโลก และย้อนแย้งกับการริเริ่มของสหรัฐในประเด็น “ระบบโลกาภิวัตน์”

ไม่ว่าสหรัฐจะใช้วิธีการใดมาปิดล้อม จีนก็มีความพร้อมที่จะรับมือ เพราะจีนมีความเชื่อมั่นวิธีการพึ่งพาตนเอง ไม่ว่าเทคโนโลยี ธุรกิจส่งออก สาธารณูปโภค อุตสาหกรรมรถยนต์ ห่วงโซ่อุตสาหกรรม ตลอดจนอาหารเครื่องดื่ม จีนมีความเติบโตอย่างรวดเร็ว ชนิดอเมริกันตามไม่ทัน และก็ไม่มีจุดเด่นใดที่จะเอาชนะจีนได้ จึงอนุมานได้ว่า จีนไม่เกรงกลัวความท้าทายในประเด็นย้อนแย้งกับระบบโลกาภิวัตน์

ศัตรูในจินตนาการของ “สองผู้เฒ่า” จึงเป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับสัจธรรม เพราะมีแต่เป้า ไม่มีกระสุน

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image