จีนแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการสร้างงาน ไม่แจกเงินซื้อใจประชาชน คนจีนส่วนใหญ่หลุดพ้นจากความยากจนอยู่อุ่นกินอิ่ม

จีนแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการสร้างงาน
ไม่แจกเงินซื้อใจประชาชน
คนจีนส่วนใหญ่หลุดพ้นจากความยากจนอยู่อุ่นกินอิ่ม

การประชุมคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 20 ครั้งที่ 3 ที่ประชุมได้มีมติให้ยกระดับการปฏิรูปเปิดประเทศเชิงลึกและครอบคลุม เพื่อผลักดันการตัดสินใจเกี่ยวกับการรังสรรค์รูปแบบจีนที่ทันสมัย

แม้การตัดสินใจเป็นเพียงการหารือ และแม้ยังมิได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ แต่จากการสรุปเมื่อปิดสมัยประชุม ก็พอจะอนุมานได้ว่า การยกระดับการปฏิรูปอย่างครอบคลุมคือ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนระบบนิเวศ วัฒนธรรม ความมั่นคงแห่งชาติ และการป้องกันประเทศ

การปฏิรูปเปิดประเทศเชิงลึกของจีนตั้งอยู่บนพื้นฐาน “6 คงอยู่” “7 โฟกัส” โดยกำหนดตารางเวลาวันชาติจีนปี 2029 ซึ่งครบรอบ 80 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จักต้องบรรลุความสำเร็จ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาคมโลกได้รับทราบเกี่ยวกับการพัฒนาภายใน 5 ปีข้างหน้าของจีน คือ “ความทันสมัย”

อัน “6 คงอยู่” คือ ยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานแห่งความซื่อสัตย์ แนวคิดใหม่ ยึดการสร้างสาธารณูปโภคเป็นหลัก ปกครองด้วยรูปแบบนิติรัฐ ดำรงแนวคิดระบบสร้างสรรค์

ส่วน “7 โฟกัส” ได้แก่ รังสรรค์ระบบเศรษฐกิจตลาดของระบอบสังคมนิยมให้ได้มาตรฐาน เน้นการพัฒนาประชาธิปไตยของประชาชน สร้างวัฒนธรรมที่แข่งแกร่งแก่ระบอบสังคมนิยม ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน สร้างประเทศจีนให้สวยงาม เสริมสร้างสาธารณูปโภคให้มีมาตราสูง ยกระดับคุณภาพการทำงานของผู้นำพรรคและความสามารถในการบริหารงานของรัฐบาล

การประชุมครั้งนี้ จุดประสงค์และวาระหลักคือ กำหนดทิศทางนโยบายทางสังคมและเศรษฐกิจระยะยาวของประเทศ กล่าวโดยสรุปคือ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเทศให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงประเด็นต่างประเทศ และยืนยันว่า “รูปแบบจีนที่ทันสมัยคือดำรงอยู่บนพื้นฐานการพัฒนาอย่างสันติ” และ “ปฏิรูประบบการทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศในเชิงลึก ตลอดจนร่วมกิจกรรมต่างประเทศทั่วโลก และยืนหยัดธำรงอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศ”

ที่สำคัญที่สุดคือได้ตั้งเป้าหมายปี 2035 ต้องบรรลุ “หลักการสังคมนิยมทันสมัย” เมื่อถึงกลางศตวรรษจะต้องเป็น “ประเทศสังคมนิยมอย่างครอบคลุมและแข็งแกร่ง”

แม้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ดัชนีชี้วัดบ่งบอกว่า เศรษฐกิจจีนไม่ดี แต่รัฐบาลกลาง ไม่มีนโยบาย “อุ้มตลาด” เพื่อทำการกระตุ้นเศรษฐกิจ กรณีพอสันนิษฐานได้ว่า รัฐบาลยึดหลักการทำงานตามคำขวัญของพรรค “ค้นหาสัจธรรมจากความเป็นจริง” ทั้งนี้ โดยแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการสร้างงาน ไม่เอาเงินออกมาแจก เพื่อเอาใจประชาชน หรือเพื่อซื้อใจประชาชน เพราะกรณีเป็นการสูญเสียงบประมาณก้อนโต ได้ไม่คุ้มเสีย และอาจเป็นการเปลี่ยนนิสัยคนให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น ทั้งกินทั้งเที่ยว นอกจากนี้ รัฐบาลจีนปกครองประเทศโดยยึดถือประชาชนเป็นแกนกลางและถือเป็นหน้าที่สำคัญที่สุด

ที่น่าสนใจที่สุดคือ นายกรัฐมนตรีไม่ให้สัมภาษณ์ แม้กระทั่งรายการพบนักข่าวต้นเดือนมีนาคมของทุกปีหลังจากปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งจัดกันมาเป็นเวลา 30 ปีจนกลายเป็นประเพณี ก็ได้ถูกยกเลิกไป

หากมองโลกอยู่บนพื้นฐานแห่งอุเบกขา คำขวัญ “ค้นหาสัจธรรมจากความเป็นจริง” นั้นสัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง ย้อนมองอดีตปี 1978 เติ้ง เสี่ยวผิง ประกาศปฏิรูปเปิดประเทศ โดยให้ “เซินเจิ้น” เป็นเมืองนำร่อง อดีตเซินเจิ้นเป็นพื้นที่ทะเลส่วนหนึ่ง นอกนั้นเป็นเรือกสวนไร่นา ป่าเขาลำเนาไพร บัดนี้เซินเจิ้นกลายเป็น 1 ใน 5 เมืองใหญ่ของเอเชีย จีนเป็นประเทศส่งออกที่ใหญ่สุดของโลก มีเงินทุนสำรองเป็นอันดับ 1 ของโลก ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ความเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงกว่าบางประเทศที่พัฒนาแล้ว

การที่ประเทศจีนมีวันนี้ ก็เพราะมีเสาหลักคือ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่เปี่ยมด้วยสติปัญญาและวิริยภาพ ดำเนินงานการเมืองตามนโยบายของพรรคที่แน่วแน่เด็ดขาด และมีผู้บริหารระดับสูง อันมีนายกรัฐมนตรีเป็นอาทิ ล้วนทำงานด้วยหัวใจโดยปราศจากการจัดฉากสร้างภาพ เจ้าหน้าที่รัฐยึดความจริงในการบริหารบ้านเมืองเป็นหลัก หันหลังให้กับการโฆษณาชวนเชื่อ ละทิ้งความฉาบฉวย ไม่ใช้เงินซื้อใจประชาชน แต่ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกการเป็นเจ้าของประเทศ ประชาชนจีน 56 เผ่าพันธุ์ จึงร่วมมือร่วมใจกันสร้างประเทศ บัดนี้ คนจีนส่วนใหญ่ได้หลุดพ้นจากความยากจน อยู่อุ่นกินอิ่ม อันเป็นประจักษ์จากการจัดงานประกาศเกียรติคุณของรัฐบาลเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2021 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ประกาศว่า “ประเทศจีนได้รับชัยชนะหลุดพ้นจากความยากจนโดยทั่วไป ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์โชติช่วงราวปาฏิหาริย์ในโลกมนุษย์”

ดังนั้น จึงมีนักวิเคราะห์บางคนมองว่าตะวันตกปกครองโลกนั้นอาจถึงสมัยยุติประวัติศาสตร์ และเห็นว่าการเติบโตของจีนเป็นสัญญาณแห่งการเข้าแทนที่ของระบบใช้อำนาจเด็ดขาด

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่