| ผู้เขียน | มงคล วัชรางค์กุล |
|---|
ดีเบตครั้งแรก (อาจจะเป็นครั้งเดียว)
ทรัมป์ VS แฮร์ริส
ใครชนะ
ในช่วงก่อนการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา จะมีธรรมเนียม Presidential Debate (โต้วาทีชิงประธานาธิบดี) แสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทั้ง 2 พรรคผ่านหน้าจอทีวี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้คนอเมริกันตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นประธานาธิบดี
การดีเบตคราวนี้จัดเมื่อสิงหาคม 10, 2024 ที่ National Constitution Center (NCC) เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย
เริ่มดีเบตตอน 3 ทุ่ม ต่อหน้ากล้องทีวี ถ่ายทอดสดหลายช่อง ออกอากาศไปทั่วโลก แต่ไม่มีคนดูในห้องส่ง ดำเนินรายการโดยยอดพิธีกรจากช่อง ABC News, David Muir และ Linsey Davis
The Wall Street Journey ฉบับ สิงหาคม 12, 2024 คาดว่ามีคนดูดีเบตนี้ 57 ล้านคน
เปิดฉากแรก แฮร์ริสเป็นฝ่ายเดินมาหา แล้วจับมือกับทรัมป์ เธอประกาศว่า เธอไม่ใช่โจ ไบเดน ไม่ใช่โดนัล ทรัมป์ แต่เธอคือ คามาลา แฮร์ริส
ทรัมป์เริ่มโจมตีทันทีว่า เธอ (She) มาจากตระกูลมาร์กซิสต์ พ่อของเธอคือ มาร์กซิสต์ตัวโต ทรัมป์ใช้ทฤษฎีโจมตีใส่คู่ต่อสู้เรียกความสนใจไว้ก่อน ไม่สำคัญว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
เริ่มแรกพูดกันเรื่องเศรษฐกิจ แฮร์ริสนำเสนอแผนเศรษฐกิจแห่งโอกาส ปกป้องชนชั้นกลางโดยเฉพาะการลดภาษี $ 5,000 ให้ครอบครัวใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ส่วนทรัมป์บอกว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากต่างชาติเพื่อปกป้องเศรษฐกิจอเมริกาจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
มาถึงเรื่องการทำแท้งเสรี ทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งเสรีโดยเฉพาะเมื่อท้องหลายเดือนแล้ว แต่แฮร์ริสเน้นว่า ผู้หญิงควรจะมีสิทธิเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด (การทำแท้ง) ให้ร่างกายของตัวเอง
พูดกันเรื่องประเด็นผู้อพยพเข้าเมืองที่ควรจะเป็นจุดอ่อนที่สุดของแฮร์ริส เพราะเธอดูแลเรื่องนี้โดยตรง แต่ช่วงหลังมีผู้อพยพเข้าประเทศมากมาย แฮร์ริสบอกว่า มีการเพิ่มงบประมาณให้หน่วยควบคุมปกป้องชายแดน
ทรัมป์โจมตีว่า ผู้อพยพเข้าเมืองจำนวนมากมาแย่งกันกิน ยกตัวอย่างที่เมือง Greenfields (รัฐโอไฮโอ)
“คนอพยพกินหมา กินแมว กินสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน”
ทรัมป์พูดทำหน้าตาขึงขัง ในขณะที่แฮร์ริสกลั้นหัวเราะ
ประเด็นคนอพยพกินหมาที่เมือง Greenfields นั้น วันรุ่งขึ้นผู้ว่าการรัฐโอไฮโอออกทีวีแถลงว่า ไม่มีผู้อพยพกินหมาหรือกินสัตว์เลี้ยงที่เมืองกรีนฟิลส์
เรื่องบานปลายจนผู้อพยพที่เมือง Greenfields ที่ทุกคนเป็นชาวเฮติเตียนออกมาประท้วง เมืองนี้มีประชากร 60,000 คน เป็นผู้อพยพเฮติเตียน 25,000 คน
เด็กนักเรียนเฮติเตียนเดินขบวนประท้วงชูธงชาติอเมริกา
ร้ายยิ่งไปกว่านั้น มีการขู่วางระเบิดโรงเรียนไฮสคูล 17 โรงในเมืองนี้ถึง 30 ครั้ง จนต้องปิดโรงเรียนทั้งหมด หันไปสอนออนไลน์แทน ตำรวจต้องเข้ามาช่วยดูแลโรงเรียน
ในขณะเดียวกัน มี Colleges (มหาวิทยาลัย) 2 แห่งในเมือง Greenfields ก็พลอยต้องปิดการเรียนการสอนไปด้วย เพราะถูกขู่วางระเบิดเช่นเดียวกัน
เรื่องนี้ใหญ่ขนาดรัฐบาลเฮติประท้วงอเมริกา
ในระหว่างการดีเบต เมื่อผู้ดีเบตพูดถึงเรื่องอะไร ABC News จะขึ้นข้อมูลให้เห็นว่า พูดเรื่องเท็จหรือเรื่องจริงทันที แน่นอนว่า เมื่อทรัมป์พูดเรื่องคนอพยพในเมือง Greenfields กินหมา ABC News จะขึ้นข้อความว่าทรัมป์พูดเท็จ
มาถึงเรื่องสงครามยูเครน
พิธีกรชาย David Muir ถามทรัมป์ว่า คิดว่ายูเครนจะชนะสงครามไหม
ทรัมป์ตอบไม่ตรงคำถาม ตอบว่า สงครามนี้จะต้องยุติ เขาจะเรียกรัสเซียมาเจรจา และเรียกยูเครนมาเจรจา เพื่อยุติสงคราม
David Muir ถามย้ำกับทรัมป์อีกครั้งว่า คิดว่ายูเครนจะชนะสงครามไหม
ทรัมป์ตอบไม่ตรงคำถามอีกครั้ง โดยตอบว่า ถ้าเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ยังไม่ทันเข้าทำเนียบขาว (เดือนมกราคม) สงครามยูเครนก็ยุติแล้ว
ต่อคำถามเดียวกันนี้ของ David Muir คามาลา แฮร์ริส ตอบว่า ถ้าดำเนินการตามวิธีของทรัมป์ ปูตินจะเข้าไปนั่งในเคียฟ (เมืองหลวงของยูเครน) และเป้าหมายต่อไปของปูตินคือโปแลนด์ แฮร์ริสถามคนลงคะแนนเชื้อสายโปลิส 300,000 คน ในเพนซิลวาเนียว่าจะยอมไหม
แฮร์ริสกล่าวชัดเจนว่า เธอสนับสนุนยูเครน
“I stand for Ukraine”
เธอกล่าวเสริมว่า ก่อนสงครามยูเครนจะเกิด 5 วัน เธอพบกับประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครน และกล่าวเตือนเขาว่า รัสเซียกำลังจะบุกยูเครนแน่นอน
เธอยืนยันอีกครั้งว่า I Stand for Ukraine
ในเรื่องสงครามตะวันออกกลาง แฮร์ริสบอกว่าอิสราเอลมีสิทธิจะป้องกันตัวเอง เหตุการณ์ 7 ตุลาคม จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก วันนั้นผู้หญิงอิสราเอลสองร้อยคนถูกข่มขืนทารุณก่อนจะโดนฆ่าทิ้ง ความทารุณนี้ไม่อาจนำมาบอกเล่าในที่นี้ได้ เธอและประธานาธิบดีไบเดนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะยุติสงครามในตะวันออกกลาง
ทรัมป์ก็พูดในทำนองเดียวกันว่าสนับสนุนอิสราเอล
เป็นที่น่าสังเกตว่านายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูมาปราศรัยในรัฐสภาอเมริกาเมื่อกรกฎาคม 23, 2024 ได้รับเสียงปรบมือเป็นระยะตลอดเวลา ปิดท้ายด้วยเสียงปรบมือยาวนาน ปราศรัยเสร็จวันรุ่งขึ้น เนทันยาฮูเข้าพบประธานาธิบดีไบเดนและรองประธานาธิบดีแฮร์ริสที่ทำเนียบขาว อีกวันพรุ่งเนทันยาฮูบินไปพบทรัมป์ที่อาณาจักร Mar-a-Lago ที่ฟลอริดา
เนทันยาฮูเลือกทั้งสองข้าง แฮร์ริสและทรัมป์
จบการดีเบต วงการให้ความเห็นว่า แฮร์ริสทำได้ดีกว่าทั้งภาษากายและการจับประเด็นโจมตีทรัมป์ จนทรัมป์ “หลุด” หลายครั้ง จนคะแนนของแฮร์ริสขึ้นนำ
แต่ CNN บอกว่าไม่ได้หมายความว่าคนที่พ่ายแพ้ในการปราศรัยครั้งแรกจะหมดสิทธิ เพราะเคยมี 3 คนที่พ่ายในการดีเบตครั้งแรก ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีมาแล้ว คือ
BUSH 2004, OBAMA 2012, TRUMP 2016
ทรัมป์ประกาศว่า เขาได้รับชัยชนะในการดีเบตครั้งนี้ ทำไมจะต้องไปดีเบตครั้งต่อไป
ทันทีที่จบการดีเบต Tayler Swift ศิลปินสาวที่กำลังโด่งดังที่สุดในอเมริกา (และทั่วโลก) โพสต์ข้อความสนับสนุน Kamala Harris ว่า
“ฉันโหวตให้คามาลา แฮร์ริส เพราะเธอสู้เพื่อความถูกต้องและเพราะฉันเชื่อมั่นที่จะต่อสู้เพื่อให้เธอได้เป็นแชมเปี้ยน”
Tayler Swift ส่งสารพร้อมรูปถ่ายอุ้มแมว ลงชื่อ “Childless Cat Lady”
สมญานามที่ JD Vance ผู้สมัครรองประธานาธิบดีของทรัมป์ตั้งให้แฮร์ริสที่ไม่มีลูกว่าเป็น Childless Cat Lady
24 ชั่วโมงแรกหลัง Taylor Swift ลงโพสต์ มีคนเข้ามาสนับสนุนใน voter website, vote.gov 340,000 คน
ทรัมป์ตอบโต้ว่า “I HATE TAYLOR SWIFT” “ฉันเกลียด Taylor Swift”
ต้องติดตามต่อไปว่าใครกันแน่ที่จะมา ทรัมป์ หรือ แฮร์ริส
5 พ.ย.นี้รู้ผล
มงคล วัชรางค์กุล