ผู้เขียน | พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก |
---|
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ดินแดนแห่งนี้เป็น 1 ในประเทศที่มีความลับมากที่สุดในโลก ไม่ค่อยชอบให้คนจากนอกประเทศเข้ามาสอดรู้สอดเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2491 เกาหลีเหนือถูกปกครองโดยผู้ชาย 3 คนจากครอบครัวเดียวกัน คิม อิลซุง เป็นผู้นำสูงสุดคนแรกของประเทศ ซึ่งดำรงตำแหน่ง 17 ปี จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2537
ส่งต่อตำแหน่งผู้นำสูงสุดไปยังลูกชายของเขาชื่อ คิม จองอิล ปกครองเกาหลีเหนือจนสิ้นชีวิต ประชาชนร่วมพิธีศพร้องไห้กันระงม
พ.ศ.2554 รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศให้ คิม จองอึน ลูกชายของคิม จองอิล ขึ้นเป็นผู้นำมาถึงปัจจุบัน
พิธีประกาศชื่อผู้นำประเทศคนใหม่…มีประชาชนราวหนึ่งล้านคนรวมตัวกันที่เมืองหลวงเปียงยางเพื่อฟังประกาศดังกล่าว
เกาหลีเหนือเป็นข่าวต่อเนื่องเรื่องทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ตั้งใจจะยิงให้ถึงอเมริกา ยิงแล้วยิงอีก เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สะท้านสะเทือนทุกครั้งว่าจรวดจะไปตก ณ ที่ใด เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ผู้นำประเทศมีบุคลิกเฉพาะตัว ฝึกฝนนักกีฬาเป็นยอดระดับโลก ข่าวล่าสุดคือ ส่งกำลังทหารนับหมื่นนายพร้อมอาวุธไปช่วยสนับสนุนกองทัพรัสเซียรบกับยูเครน
ชาวโลกไม่ค่อยได้ยินข่าวคราวจากดินแดนแห่งนี้มากนัก แถมมีข่าวว่าประชาชนในดินแดนนี้ถูกปิดกั้นจากการสื่อสารกับโลกภายนอก
ชื่อเป็นทางการคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ชาวโลกเรียกกันง่ายๆ ว่า เกาหลีเหนือ ในขณะที่คนไทยเรียกว่า โสมแดง
ดินแดนเกาหลีเหนือครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 55 ของพื้นที่ทั้งหมดบนคาบสมุทร มีอาณาเขตติดกับจีนและรัสเซียทางทิศเหนือ และติดกับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ทางทิศใต้ เมืองหลวงคือเปียงยาง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการขนส่งที่สำคัญใกล้กับชายฝั่งตะวันตก
พ.ศ.2453-2488 กองทัพญี่ปุ่นนับหมื่นเคยบุกไปยึดคาบสมุทรเกาหลี (ก่อนที่จะมีเกาหลีเหนือ-ใต้)ญี่ปุ่นมีส่วนในการพัฒนาเมืองต่างๆ พร้อมกับความโหดร้ายทารุณต่อชาวเกาหลี ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เน้นหนักไปที่การผลิต ส่งผลให้ศูนย์กลางอุตสาหกรรมในยุคแรกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และทำให้ประชากรไหลจากชนบทเข้าสู่เขตเมือง
พ.ศ.2493-2496 เกิดสงครามเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ บ้านเมืองกลายเป็นเศษซาก (โดยเฉพาะกรุงโซล) ประชาชนเกาหลีที่เป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตเสียชีวิตไปราว 3 ล้านคน
สงครามยุติลง…เกาหลีเหนือปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มีจีนและโซเวียตเป็น “พี่เลี้ยง”เกาหลีใต้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมีสหรัฐอเมริกาเป็น “พี่เลี้ยง”
สร้างเขตปลอดทหาร (DMZ) กว้าง 4 กม. กำหนดขึ้นตามเงื่อนไขของการสงบศึกในปี 1953 มีความยาวประมาณ 240 กม. เป็นเส้นหยุดยิง แบ่งกันชัดเจน เหนือ-ใต้
สังคมโลกไม่ค่อยได้รับรู้อะไรมากนัก ทราบแต่ว่าทั้งเหนือและใต้ต่างก็สร้างบ้านเมืองขึ้นใหม่ โดยเฉพาะกรุงโซลที่มีการวางผังเมืองที่สวยงามระดับโลก
กรุงเปียงยางเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ โดยมีประชากรมากกว่านัมโพ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองอย่างมาก เมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฮัมฮึงชงจิน และแคซอง
ช่วงสงครามหฤโหด ประชาชนเกาหลีอพยพหนีออกนอกประเทศไปมหาศาล เมื่อสงครามสงบรัฐบาลเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในฟาร์มอย่างรุนแรง
ชาวเกาหลีส่วนใหญ่หนีไปยังจีน ไซบีเรีย ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
ในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 เกาหลีเหนือได้ดำเนินการรณรงค์เพื่อชาวเกาหลีให้กลับประเทศ มีผู้เข้าร่วมโครงการนี้มากกว่า 90,000 คนวิกฤตขาดแคลนอาหารที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเกาหลีเหนือ และการที่รัฐบาลกดขี่ทางการเมืองเกิดเป็นวิกฤต ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลบหนีไปยังจีนราว 300,000 คน
เกาหลีเหนือเป็นรัฐเผด็จการที่รวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แต่ประเทศนี้ยังคงมีกองทหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และอุทิศทรัพยากรจำนวนมากให้กับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล เป็นความท้าทายครั้งสำคัญต่อเป้าหมายการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ระดับโลก
แม่น้ำที่ยาวที่สุดของเกาหลีเหนือคือแม่น้ำยาลู ในภาษาเกาหลีเรียกว่า อัมนก แม่น้ำสายนี้ไหลไปทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 800 กม. ไปจนถึงปากแม่น้ำที่อ่าวเกาหลีแม่น้ำทูเมน (Tumen) มีจุดเริ่มต้นที่ภูเขาแพ็กตู แต่ไหลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 520 กม. สู่ทะเลตะวันออก
โลกตะวันตกและหลายประเทศใกล้เกาหลีจับจ้องมองเกาหลีเหนือว่าคุณกำลังคิดผลิตอาวุธนิวเคลียร์อยู่หรือไม่? ซึ่งทุกฝ่ายคาดว่าเกาหลีเหนือมีขีดความสามารถและกำลังดำเนินการ
เลยต้องไปใช้ “มติ” ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่จะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนืออย่างเคร่งครัด หากแต่ผู้นำเกาหลีเหนือพร้อมทีมงาน ยังทดสอบการยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ
งานข่าวกรอง ข่าวลับ พุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่มีนักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดทำงานแบบเงียบๆ แต่ก็มีเครือข่ายร่วมมือ “ลับที่สุด” กับหลายกลุ่มหลายประเทศ
เกาหลีเหนือมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้งานได้ 2 เครื่อง ซึ่งทั้ง 2 เครื่องตั้งอยู่ที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ยองบอน
9 ตุลาคม 2549 โสมแดงที่ไม่สนใจมติของใครทั้งนั้น ทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกและได้ทำการทดสอบดังกล่าวไปแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง
เป็นประเทศเดียวในโลกที่ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ในศตวรรษที่ 21 การกระทำของเกาหลีเหนือจึงเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายฉบับ และขัดต่อบรรทัดฐานระดับโลกที่แข็งกร้าวต่อการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
ต้องยอมรับว่า “เก่งจริง” ความพยายามพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ เป็นการเขย่าขวัญชาวโลกได้ไม่น้อย
คณะมนตรีความมั่นคงของ UN จึงได้กำหนดมาตรการ “คว่ำบาตร” เกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2549 ล่าสุดคือมติ 2397 ที่ผ่านเมื่อเดือนธันวาคม 2560
ในอดีต (ก่อนถูกแบ่งประเทศ) วิถีชีวิตและระบบค่านิยมของชาวเกาหลีมีพื้นฐานอยู่บนความคิดของขงจื๊อ พุทธศาสนา มีมิชชันนารีนิกายโรมันคาทอลิกและนิกายโปรเตสแตนต์มาถึงในศตวรรษที่ 18 และ 19 ตามลำดับ ซุนชอนและเปียงยางเป็นศูนย์กลางสำคัญของกิจกรรมของคริสเตียน
เมื่อญี่ปุ่นเข้ายึดครอง ส่งผลให้ศาสนาคริสต์ถูกปราบปราม และเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ไม่มีมิชชันนารีต่างชาติเหลืออยู่ในประเทศอีกต่อไป
เกาหลีเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนมากกว่า 25 ล้านคน ที่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งควบคุมชีวิตประจำวันทุกด้านอย่างเข้มงวด
ประชาชนต้องขออนุญาตก่อนจะเดินทางไปเที่ยว และยังประสบปัญหานักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ยาก ทีวีและวิทยุทั้งหมดเป็นของรัฐ ผู้ที่ถูกจับได้เผยว่าฟังการออกอากาศของต่างประเทศจะต้องเผชิญกับการลงโทษที่รุนแรง
ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่แทบจะไม่มีความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ในโลก ประชากรส่วนใหญ่ทำการเกษตร
ปรากฏข่าวเนืองๆ เรื่องภาวะขาดแคลนอาหารที่สหประชาชาติต้องเข้าไปช่วยเหลือ นำอาหารไปมอบให้
ชาวเกาหลีเหนือจะได้รับการสอนตั้งแต่ยังเด็กว่าผู้นำของพวกเขาเปรียบเสมือนเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ จะส่งเสียงเชียร์และยกย่องผู้นำของตนในงานสาธารณะขนาดใหญ่ต่างๆ
แร่เหล็กและถ่านหินเป็นแร่ที่สำคัญที่สุดแม้ว่าจะมีความสำคัญในการสกัดทองคำ แมกนีไซต์ (แมกนีเซียมคาร์บอเนต) ตะกั่ว และสังกะสีมากกว่าก็ตาม แร่ธาตุอื่นๆ ที่มีอยู่มากมาย ได้แก่ ทังสเตน กราไฟต์ แบริต์ (แบเรียมซัลเฟต) และโมลิบดีนัม
ภาพถ่ายจากอวกาศขององค์การ NASA พบว่า ดินแดนเกาหลีเหนือแทบไม่มีแสงไฟในตอนกลางคืน ในทางตรงกันข้าม เกาหลีใต้ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทรส่วนล่างและเต็มไปด้วยแสงไฟในตอนกลางคืนจากเมืองต่างๆ มากมายที่มีขนาดแตกต่างกัน
เกาหลีเหนือไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวอิสระไปเที่ยวตามใจชอบ การเดินทางภายในประเทศถูกจำกัดอย่างเข้มงวด การเดินทางจะต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากรัฐบาล
ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศเกาหลีเหนือได้ทั้งทางอากาศ หรือทางรถไฟ แต่ไม่สามารถเข้าเกาหลีเหนือจากเกาหลีใต้
15 มีนาคม พ.ศ.2534 เกาหลีเหนือได้ยกระดับสำนักงานผู้แทนการค้าของเกาหลีเหนือใน กทม. (ที่ตั้งขึ้นเมื่อ 25 ธ.ค.2522) เป็นสถานเอกอัครราชทูต แต่ทางการไทยยังไม่ได้เปิดสถานทูต ณ กรุงเปียงยาง โดยขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง เป็นผู้ดูแล