ฝุ่น PM2.5: ปัญหา Hyperobject และทางออกที่เราต้องสร้างร่วมกัน

ฝุ่น PM2.5: ปัญหา Hyperobject และทางออกที่เราต้องสร้างร่วมกัน

คำว่า “Hyperobject” (ปรากฏการณ์ซับซ้อน ข้ามขอบเขต เหนือการรับรู้) ถูกนำเสนอครั้งแรกในหนังสือ Hyperobjects: Philosophy and Ecology after the End of the World (2013) โดย Timothy Morton แนวคิดนี้หมายถึงวัตถุหรือปรากฏการณ์ที่มีขอบเขตกว้างและซับซ้อนเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจหรือจัดการได้อย่างครอบคลุม ตัวอย่างของ Hyperobject ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีลักษณะเฉพาะดังนี้

1.มีสาเหตุที่เกี่ยวพันกันอย่างซับซ้อน ฝุ่น PM2.5 มีแหล่งกำเนิดจากหลายกิจกรรม เช่น การคมนาคม การเผาในที่โล่ง การผลิตพลังงาน การทำเกษตรกรรม และกระบวนการทางอุตสาหกรรม ความเชื่อมโยงระหว่างแหล่งที่มาทำให้การแก้ไขปัญหาต้องครอบคลุมหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการจัดการที่ต้นเหตุ เช่น การลดการใช้พลังงานฟอสซิลในกระบวนการผลิตและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่ง

2.ผลกระทบที่ข้ามพรมแดนและกาลเวลา ฝุ่นที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งสามารถลอยไปยังอีกประเทศหนึ่ง และผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏในระยะยาว การจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระดับโลก ตัวอย่างเช่น หมอกควันข้ามแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องอาศัยข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อควบคุมการเผาในที่โล่งและการลดการปล่อยมลพิษ

ADVERTISMENT

3.เกิดความเข้าใจจากมุมมองเดียว ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการวิเคราะห์หรือดำเนินการจากมิติใดมิติหนึ่ง เช่น การแก้ปัญหาที่เน้นเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยเศรษฐกิจหรือสังคมอาจนำไปสู่การต่อต้านในชุมชนท้องถิ่น การจัดการปัญหาจึงต้องคำนึงถึงบริบทที่ซับซ้อนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก

4.การเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และมีเทน (CH4) จากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลและการเกษตร เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว ซึ่งสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของฝุ่น PM2.5 โดยปริมาณมลพิษที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่ออากาศในพื้นที่ แต่ยังทำให้เกิดวงจรการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เช่น การเปลี่ยนแปลงของลมและการสะสมของมลพิษในชั้นบรรยากาศที่ยากต่อการควบคุม

ADVERTISMENT

ฝุ่น PM2.5 เป็นตัวอย่างหนึ่งของ Hyperobject ที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของวิกฤตสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน การจัดการจึงไม่สามารถแยกปัญหานี้ออกจากบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทย

ในประเทศไทย ปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ระดับฝุ่นมักพุ่งสูงขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ และภาคเหนือของประเทศ สาเหตุของฝุ่น PM2.5 มีความซับซ้อนและหลากหลาย เช่น การเผาในที่โล่งในภาคเกษตรกรรม การคมนาคมที่พึ่งพาพลังงานฟอสซิล การปล่อยควันจากโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในครัวเรือน

แม้ว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 จะได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังมีความสับสนเกี่ยวกับแหล่งที่มาและความรับผิดชอบของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง บางฝ่ายมองว่าเกษตรกรที่เผาไร่นาเป็นต้นเหตุหลัก ขณะที่บางฝ่ายชี้ไปที่การคมนาคมและอุตสาหกรรมในเขตเมือง ความขัดแย้งนี้สะท้อนถึงการขาดข้อมูลที่ครอบคลุมและโปร่งใส ซึ่งทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างล่าช้า

สถานการณ์ปัญหามลภาวะทางอากาศระดับโลก

มลภาวะทางอากาศเป็นปัญหาระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากปัญหามลภาวะทางอากาศประมาณ 7 ล้านคน ประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาต่างประสบกับปัญหานี้ในระดับที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

1.จีน : จีนเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมลพิษทางอากาศรุนแรงที่สุดในโลก แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการลดมลพิษอย่างจริงจัง เช่น การลดการพึ่งพาถ่านหิน การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน และการควบคุมมลพิษในเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

2.สหรัฐอเมริกา : ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย Clean Air Act มาตั้งแต่ปี 1970 สหรัฐสามารถลดมลพิษทางอากาศในระดับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาในบางพื้นที่ เช่น แคลิฟอร์เนีย ที่เผชิญกับหมอกควันจากไฟป่าและมลพิษจากรถยนต์

3.อินเดีย : กรุงนิวเดลีและเมืองใหญ่ในอินเดียเผชิญปัญหาฝุ่น PM2.5 ในระดับวิกฤต ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเผาฟางข้าวและมลพิษจากรถยนต์ รัฐบาลอินเดียได้เริ่มดำเนินการหลายมาตรการ เช่น การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการสนับสนุนพลังงานสะอาด แต่ยังต้องการความร่วมมือในระดับนโยบายและการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด

ตัวอย่างการจัดการปัญหาในแบบ Hyperobject

ประเทศที่สามารถจัดการปัญหามลพิษทางอากาศในกรอบแนวคิด Hyperobject ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักเน้นการบูรณาการแนวทางแก้ไขปัญหาที่ครอบคลุมและมองปัญหาในภาพรวม เช่น

เนเธอร์แลนด์ : มีการจัดการระบบการคมนาคมที่ยั่งยืน เช่น การส่งเสริมการใช้จักรยาน การลดการใช้รถยนต์ในเขตเมือง และการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน ประเทศนี้ใช้ระบบข้อมูลแบบรวมศูนย์ที่ช่วยวิเคราะห์และจัดการมลพิษทางอากาศในระยะยาว

เกาหลีใต้ : ใช้แนวคิด Hyperobject ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น การเจรจากับจีนในการลดมลพิษข้ามพรมแดน และการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในประเทศ

สิงคโปร์ : ด้วยพื้นที่ที่จำกัด สิงคโปร์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการติดตามและจัดการคุณภาพอากาศ เช่น การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดมลพิษในทุกพื้นที่สำคัญ พร้อมทั้งมีนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะและอุตสาหกรรม

การไม่เปลี่ยนเชิงโครงสร้างและข้อวิจารณ์ต่อรัฐ

หน่วยงานภาครัฐมักมุ่งเน้นไปที่มาตรการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การฉีดน้ำลดฝุ่น การแจกหน้ากากอนามัย และการออกคำสั่งห้ามเผาในพื้นที่บางส่วน แต่มาตรการเหล่านี้ไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ และขาดแผนการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างในระยะยาว เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า การสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน และการปรับเปลี่ยนระบบเกษตรกรรมสู่เกษตรนิเวศให้ยั่งยืน

จากปัญหาวันนี้ สู่อนาคตที่ยั่งยืน

การจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ลึกซึ้งและใช้เวลายาวนาน หากเราไม่เริ่มลงมือเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ อนาคตที่ฝุ่น PM2.5 กลายเป็น “ความปกติใหม่” อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยการรวมพลังของทุกภาคส่วน เราสามารถสร้างโลกที่สะอาดและยั่งยืนสำหรับลูกหลานในอนาคตได้

กฤษฎา บุญชัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image