ส.ค.ส. จากป๋า “กองหนุน” เกือบหมด กองหนุน คสช.

แม้คล้อยหลังการเข้าอวยพรปีใหม่ ณ บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่นานจะมีการเปิดที่ทำการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดขึ้นในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์

กระนั้น ความห่วงใยจาก “ป๋า”

“ตู่ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว”

ก็น่าจะยังก้องกังวาน ไม่เพียงแต่ภายในใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากแต่ยังภายในใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และรวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ด้วย

Advertisement

อย่างน้อยที่ยอมรับออกมาว่า “3 ป.โดนหนัก”

ที่โดนหนักเนื่องจาก “เพราะคนไม่เข้าใจและยากที่จะให้ทุกเข้าใจตรงกัน เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว งานต่างๆ ทำมาแล้วกว่า 3 ปี”

คำถามก็คือ เป็น 3 ปีแห่งความสำเร็จจริงหรือ

ต้องยอมรับว่าเมื่อบทสรุปของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ว่า “ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว”

ประสานเข้ากับคำที่ว่า “3 ป.โดนหนัก โดนอยู่ทุกวัน”

คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ ทั้งๆ ที่เป้าหมายที่รับรู้กันเมื่อตัดสินใจทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คือ

ต้องการ “คืนความสุข” ให้กับ “ประชาชน”

เวลาผ่านมา 3 ปีน่าจะอยู่ในบรรยากาศแห่งความสดใส ชาวบ้านดำรงอยู่อย่างชนิดที่เรียกว่า “กินอิ่ม นอนสุข”

แล้วเหตุใด “3 ป.” จึงยัง “โดนหนัก โดนอยู่ทุกวัน”

หากความนิยมต่อ คสช. และโดยเฉพาะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่โพลบางสำนักออกมาระบุว่า มากกว่าร้อยละ 90 เหนือกว่าทุกคน ทุกฝ่าย

แล้วเหตุใดจึงยังไม่ยอม “ปลดล็อก”

บทสรุปจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นบทสรุปจากความห่วงใยอย่างเด่นชัด เหตุผลไม่เพียงแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ชูมือเชียร์ คสช.มาตั้งแต่ต้น

หากแต่ยังอยู่ในฐานะ “กองหนุน”

เป็นไปได้หรือไม่ที่คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53/2560 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ก่อรูปความรู้สึกเช่นนี้ให้แม้กระทั่ง กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

เพราะเสียงโวยจาก “กองหนุน” ดังก้องใน 2 หู

อย่างน้อยที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่ในสถานะอันแทบไม่แตกต่างไปจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

นั่นก็คือ เห็นด้วยกับ “รัฐประหาร”

นั่นก็คือ มีส่วนหนุนเสริมอย่างใกล้ชิดและแนบแน่นอยู่กับขบวนการ “ชัตดาวน์” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อันสร้างความชอบธรรมให้กับการเข้ามา “ยึดอำนาจ”

จึงเท่ากับเป็น “กองหนุน” อันแข็งแกร่งมั่นคง

มาถึง ณ วันนี้ แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ถูกเมิน มีสภาพเหมือนกับใบตองอันเป็นส่วนหนึ่งของบายศรีที่ถูกทิ้งเมื่อหมดประโยชน์

ความร้าวรานใจของ “กองหนุน” จึงปรากฏชัด

บรรยากาศการอำลาจากปีเก่า 2560 กับบรรยากาศการต้อนรับปีใหม่ 2561 จึงไม่แน่ว่าจะเปี่ยมไปด้วยเสียงเพลงและการชโยโห่ร้องอวยชัย

อย่างน้อยความห่วงของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ก็สะท้อนความเป็นจริงของ “กองหนุน” ที่เคยแวดล้อมอยู่โดยรอบ “คสช.” ตั้งแต่ก่อนเดือนพฤษภาคม 2557 กระทั่ง ณ เดือนธันวาคม 2560 เป็นอย่างไร

นี่คือการส่งความสุขในแบบ “ป๋า”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image