เมื่อหันมองคนรอบข้าง หรือคิดถึงคนที่เรารู้จัก แล้วลองพิจารณาดูซิว่า กี่คนที่ได้ทำงานตรงกับปริญญา หรือสาขาที่ตัวเองจบมา
ทุกวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเลือกทำอาชีพอะไรก็ได้ แม้จะไม่ตรงกับสาขาที่จบมา แต่สิ่งที่เราเลือกทำเป็นอาชีพเพื่อหาเลี้ยงชีวิตแล้ว ถ้าหากเราทำอย่างไม่มีคุณภาพ เราก็จะอยู่ได้ไม่นาน และไปไม่รอดในที่สุด จนต้องเลิกกิจการหรือเปลี่ยนไปทำอาชีพใหม่ ดังนั้น คุณภาพจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำต้องมี จึงจะอยู่รอด (ในระยะยาว) และอยู่รอดแบบยั่งยืนด้วย
คำว่า “คุณภาพต้องมาก่อน” หรือ “Quality First” จึงไม่ใช่คำขวัญเพื่อการควบคุมคุณภาพเท่านั้น แต่เป็นคำที่แสดงถึง ความเป็นความตายของธุรกิจอุตสาหกรรมใดๆ รวมถึงความมั่นคงในอาชีพของเราเองด้วย
โดยทั่วไปแล้ว คุณภาพแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ คุณภาพที่กำหนดขึ้นตามความต้องการของลูกค้า และ คุณภาพที่กำหนดขึ้นในกระบวนการผลิตสินค้านั้นๆ
คุณภาพที่กำหนดขึ้นตามความต้องการของลูกค้าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะคือ “จุดขาย” ของเรา เราจึงจำเป็นต้องทำการศึกษา และวิจัยเพื่อให้รู้ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ส่วนคุณภาพที่กำหนดในกระบวนการผลิตนั้นจะต้องปราศจากความเบี่ยงเบนจากมาตรฐาน หรือข้อกำหนด คือ มีคุณภาพเป็นไปตามที่มาตรฐานในเรื่องนั้นๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะต้องรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคโนโลยี กระบวนการการผลิต มาตรฐานการผลิต หรือการควบคุมคุณภาพ เป็นต้น
ความหมายที่แท้จริงของคำว่า “คุณภาพของผลิตภัณฑ์” นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์แต่ละตัว หรืองานแต่ละงานที่แตกต่างกันไป ถ้าเราไม่สามารถทำความเข้าใจได้ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับคุณภาพของแต่ละผลิตภัณฑ์แล้ว เราก็จะไม่สามารถควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้
ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องรับรู้ถึง “คุณภาพของผลิตภัณฑ์” ตามความต้องการของลูกค้า หรือผู้บริโภค รวมถึงคุณภาพหรือมาตรฐานของกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตที่จะได้มาซึ่งความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ เพื่อที่จะบรรลุถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการ เพราะสินค้าที่ขายได้ จะต้องถูกใจลูกค้า ซึ่งมาจากกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานด้วย
ในการนี้เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีกระบวนการผลิตตามปกติที่มีความชัดเจนและแน่นอนเสียก่อน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไป เทคโนโลยีก็เปลี่ยนไป ความต้องการของลูกค้าก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เราจึงต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต และเทคโนโลยีเพื่อผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการใหม่ของลูกค้าให้ได้ ซึ่งเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป
ความหมายของคำว่า “คุณภาพ” (Quality) ในวันนี้ จึงมี “ความไม่หยุดนิ่ง” คือเป็น “พลวัต” มากกว่า โดยเปลี่ยนไปตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า หรือผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
เรื่องของ “คุณภาพ” นี้ จึงต้องยึดหลักการของ “การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง” เป็นสำคัญ ครับผม
