ผู้เขียน | ปราปต์ บุนปาน |
---|
ปลายสัปดาห์ก่อน ดูจะมีข่าวทางการเมืองใหญ่ๆ สองข่าว
เริ่มจากความสนใจว่าด้วยที่มาอันน่าสงสัยของเงินบริจาคในงานเลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ
ต่อด้วยเรื่องราวของ “คลิปส่วนตัว” ที่ถูกขยายกลายเป็นประเด็นสาธารณะและประเด็นทางการเมืองอันร้อนแรง
นอกจากจะมีประสิทธิภาพในการแข่งขันซึ่งกันและกัน (ถ้าข่าวหนึ่งเด่น อีกข่าวก็ต้องเงียบหายตกกระแสไป)
ทั้งสองเรื่องยังคล้ายจะมีศักยภาพในการสั่นสะเทือนการเมืองใน
ภาพใหญ่
แต่ไปๆ มาๆ สถานการณ์ทุกอย่างกลับแน่นิ่ง-คงเดิม
กรณี “คลิปส่วนตัว” ซึ่งยังหาตัวคนถ่าย คนเผยแพร่ คนสมรู้ร่วมคิด (เช่น โรงแรมที่เกิดเหตุ) ในการกระทำผิดไม่ได้ (ถ้าเป็นกรณีแบล๊กเมล์ทางการเมือง ก็ถือเป็นการกระทำที่สกปรกมาก) นั้นแทบไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ใดๆ ที่ผิดแผกแตกต่าง
กล่าวคือ กลุ่มคนที่สนับสนุน “การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ของบุคคลภายในคลิป ก็ดูเหมือนจะยังปักหลักเชื่อมั่น ยังพร้อมให้กำลังใจ ยังพร้อมปกป้องบุคคลทั้งสอง กันเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่กลุ่มคนซึ่งสมาทานแนวคิดทางการเมืองอีกแบบ ก็ยังเดินหน้าถล่มบุคคลในคลิป ด้วยการอ้างอิงหลักศีลธรรม-จริยธรรม และทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ ดังที่พอจะคาดเดาได้ล่วงหน้า
สภาพการณ์เช่นนี้ไม่น่าส่งผลกระทบต่อคะแนนความนิยมของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่งมากนัก
เช่นเดียวกับกรณี “โต๊ะจีนพรรคพลังประชารัฐ” ที่ไม่ว่าจะมี/ไม่มี “คลิป” ใดก็ตาม ถูกปล่อยออกมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
แต่สุดท้าย กิจกรรมทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐยังจะดำเนินเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ไม่วอกแวก พร้อมแนวทางหรือสโลแกนการหาเสียงที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
อาทิ การเลือกพรรคพลังประชารัฐเท่ากับเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
นี่คือสภาวะปกติที่จะดำเนินไป พร้อมกับเงินทุนจากแหล่งต่างๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาสนับสนุนพรรคการเมืองพรรคนี้
เท่ากับว่า กระทั่งถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครหรือเหตุการณ์ใดเข้ามาเปลี่ยนแปลง “การเมืองไทย” ให้พลิกผัน จากหน้ามือเป็นหลังมือได้
หากประเมินจากจิตใจที่จดจ่อ แน่วแน่ จุดยืนที่มั่นคง เด่นชัด ของทุกฝ่าย
เราย่อมเห็นภาพที่ตัวแสดงหรือตัวละครทางการเมือง ตลอดจนประชาชนคนธรรมดา ล้วนเดินทางมุ่งหน้าไปบนถนนสายเดียวกัน
ก่อนจะพบทางแยกสำคัญที่ต้องตัดสินกันด้วย “การเลือกตั้ง”
ณ จุดนั้น ทางแยกหรือทางเลือกคล้ายจะเหลืออยู่เพียงแค่สองทาง ระหว่าง เอา/ไม่เอา “ประชาธิปไตย”
หรือพูดอีกอย่าง คือ เอา/ไม่เอา “คสช.”
นี่คือจุดหมายปลายทางในเบื้องแรกที่กระจ่างชัด ซึ่งมิอาจหักเหได้ด้วยเรื่องราวรายทางใดๆ