สงครามป่วนทั้งโลก : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

เมื่อศึกสงครามระหว่างอินเดียและปากีสถานปะทุขึ้น ก็ทำเอาโลกทั้งโลกต้องปั่นป่วนไปด้วย โดยสายการบินนานาชาติต้องงดเที่ยวบินกันจ้าละหวั่น ที่สั่งยกเลิกไม่ทันก็ต้องบินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เพื่อเลี่ยงพื้นที่อันตรายบริเวณชายแดนของประเทศคู่ขัดแย้ง

หลังจากที่ฝ่ายหนึ่งส่งเครื่องบินรบเข้าไปบอมบ์พื้นที่หลบซ่อนของผู้ก่อการร้าย แล้วถูกกองทัพอีกฝ่ายโต้กลับ สอยเครื่องบินรบร่วงไป 2 ลำ

จนต้องประกาศปิดน่านฟ้าบริเวณนั้น ทำให้สายการบินพาณิชย์ทั่วโลกกระทบไปตามกัน แม้แต่การบินไทยต้องเรียกเครื่องบินที่บินออกไปแล้ว และต้องผ่านโซนอันตรายให้ตีวงเลี้ยวกลับด่วน และต้องหยุดอีกนับสิบเที่ยวบินทันที

กว่าจะตั้งหลักกันได้ ต้องปรับเส้นทางการบินกันใหม่ ก็ต้องใช้เวลาไปไม่น้อย แค่คืนเดียวนักท่องเที่ยวยุโรปก็ต้องนอนค้างกันเต็มสนามบินสุวรรณภูมิ

Advertisement

ในยุคที่คนทั้งโลกเดินทางด้วยเครื่องบินกันเป็นว่าเล่น โดนระงับการบินแค่วันสองวัน ก็สร้างผลหนักหนาสาหัสไปทั่ว

อย่างเช่น คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ไปทำธุระหรือไปท่องเที่ยวยุโรป จะต้องบินกลับมาในวันดังกล่าว ต้องตกค้างกันหมด ผิดแผนชีวิตไปตามๆ กัน

แต่ที่ต้องชื่นชมก็คือ ตำรวจไทยยุค พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา มีคำสั่งด่วนถึงตำรวจในท้องที่ที่มีนักท่องเที่ยว รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยวหน่วยงานด้านนี้โดยตรง

Advertisement

ให้ตรวจตราสอดส่องนักท่องเที่ยวและคนทั้ง 2 ชาติที่อยู่ในไทย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งและวิวาท อันเนื่องจากความขัดแย้งจนเกิดศึกสงครามระหว่าง 2 ชาติดังกล่าว

ถือเป็นการทำงานในเชิงรุก เกาะติดไปกับสถานการณ์โลกได้ฉับไว

ที่สำคัญก็คือ วันนี้ไทยเรามีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอินเดียเพิ่มสูงมาก เข้ามาทดแทนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เคยลดลงไปช่วงหนึ่งได้เป็นอย่างดี

แถมภาพรวมของอินเดียนั้น เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และกำลังเพิ่มขึ้นใกล้เคียงและอาจจะแซงประเทศจีนได้

ไม่เท่านั้น ยังมีตัวเลขคนอินเดียออกท่องเที่ยวทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งมาเที่ยวในไทยด้วย

ดังนั้น พอเกิดการบู๊กันระหว่างปากีฯกับอินเดีย จึงถูกต้องแล้วที่ตำรวจไทยจะเข้ามาใส่ใจตรวจสอบ ไม่ให้เกิดการลุกลามกับคนทั้ง 2 ชาติในบ้านเรา โดยเฉพาะอินเดียลูกค้าด้านท่องเที่ยวรายใหญ่ที่มาแรง ต้องป้องกันไม่ให้เกิดมาบู๊กันในบ้านเราไปด้วย

เป็นที่รู้กันว่า อินเดียกับปากีสถานมีข้อพิพาทในการอ้างสิทธิเหนือดินแดนแคว้นแคชเมียร์มายาวนาน จนทั้ง 2 ฝ่ายต้องไปตั้งกองกำลังทหาร-ตำรวจอยู่ในแถบนั้น แล้ววันดีคืนดีก็มีกลุ่มก่อการร้ายเข้ามาลอบโจมตีกองกำลังอินเดีย โดยเฉพาะล่าสุดรุนแรงอย่างมาก ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมานี้เอง เล่นระเบิดพลีชีพใส่รถบรรทุกตำรวจอินเดีย จนพังพินาศ ตายไปถึง 44 ศพ

จากนั้นอินเดียก็ส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มพื้นที่ที่เชื่อว่ากลุ่มก่อการร้ายหลบซ่อนอยู่ และกระทบกระทั่งกับปากีสถาน จนเริ่มตึงเครียดหนักและเกิดการสอยเครื่องบินกันขึ้น จนบานปลาย กระทบถึงสายการบินต่างๆ ทั่วโลก

ทุกสงครามข้อขัดแย้ง ถ้าไม่หาทางเจรจากัน โดยต้องมองประโยชน์ที่จะได้ร่วมกันเมื่อยุติสงคราม ถ้าไม่ใช่โต๊ะเจรจาก็มีแต่รบกันไปไม่สิ้นสุด

สันติภาพ การค้าขาย การท่องเที่ยว มีแต่ผลดีผลได้

ยกเว้นไม่ต้องการให้สงบ เพื่อจะได้จัดซื้ออาวุธ เพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง รวมทั้งเพิ่มกำลังพลด้านทหาร

พูดแล้วคุ้นๆ บางประเทศไม่มีการรบ ก็ยังไม่ยอมลดเลย

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image