ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
ขณะที่สถานการณ์ในเมืองหลวง เต็มไปด้วยฝุ่นควันทางการเมืองซึ่งมีแต่ความมัวซัว ทั้งผลสรุปคะแนนการเลือกตั้ง จะคำนวณปาร์ตี้ลิสต์แบบไหนสูตรใด จะแจกใบเหลือง แดง ส้ม ดำ แล้วจะเกิดปฏิกิริยาความไม่พอใจลุกลามขนาดไหน เพราะมีปัญหาความศรัทธาความไม่มั่นใจเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางไปแล้ว
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือ เต็มไปด้วยความมัวซัวจริงๆ โดนปกคลุมไปด้วยหมอกควันและพิษฝุ่นอย่างร้ายแรง เป็นวิกฤตที่ก่ออันตรายต่อชีวิตผู้คน
เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมองข้ามหรือมองอย่างเฉยเมย หรือรอให้ค่อยๆ คลี่คลายไปเองตามธรรมชาติ
น่าแปลกใจที่สถานการณ์ร้ายแรงนี้เกิดขึ้นมานับเดือน แต่ไม่ได้เห็นการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและอย่างเป็นระบบ
จนเมื่อต้นเดือนเมษายน ได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้นำรัฐบาลที่ยังมีอำนาจหน้าที่ต้องบริหารประเทศอยู่ในวันนี้ ได้เดินทางไปเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งรัดการแก้วิกฤตนี้
ข้อสั่งการสำคัญของนายกฯคือ ให้ทุกหน่วยงานเร่งคลี่คลายให้เบาบางลงให้ได้ภายใน 7 วัน โดยเฉพาะเรื่องไฟป่า
นั่นหมายความว่า ประมาณวันที่ 9 เมษายน ควรจะเห็นผลตามคำสั่งนายกฯ ซึ่งถ้าทำได้จริงก็จะช่วยทั้งปัญหาสุขภาพชีวิต รวมไปถึงรายได้ของคนภาคเหนือได้มากโข เพราะทุกอย่างควรจะดีขึ้นก่อนสงกรานต์มาถึง
นี่เป็นเรื่องน่าห่วงใยมาก ถ้าความมัวซัวจากหมอกควันนี้ยังหนาแน่นไปอีกยาวนาน เลยไปถึงเทศกาลสงกรานต์
จะเป็นการก่อวิกฤตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นซ้ำเติมคนภาคเหนืออีก
รายได้จากเทศกาลสงกรานต์นั้น เป็นรายได้ใหญ่ให้กับเมืองท่องเที่ยวในภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน
แต่ตัวเลขจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ บอกตรงกันว่า ยอดการจองที่พัก ลดน้อยลงไป
ด้วยความไม่มั่นใจของนักท่องเที่ยว ว่าเข้าช่วงสงกรานต์ หมอกควันฝุ่นพิษจะเบาบางลงไปแค่ไหน
โดยเฉพาะทัวร์จากต่างประเทศ จากย่านยุโรปมีความกังวลในปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพมาก
อย่าว่าแต่คนยุโรปเลย คนไทยเราเอง ก็คงเบนเข็มท่องเที่ยวไปยังภาคอื่นแทน
จึงได้แต่ภาวนาว่า หมอกควันฝุ่นพิษในพื้นที่ท่องเที่ยวภาคเหนือจะจางลงไปก่อนสงกรานต์จะมาถึง
เพราะไม่แค่ตัวเลขการจองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ต ที่น่าตกใจพออยู่แล้ว แต่ยังมีผลไปถึงธุรกิจใหญ่น้อยต่างๆ เป็นลูกโซ่ บริการเช่ารถ ร้านอาหาร สถานบันเทิง ร้านขายสินค้าข้าวของ เสื้อผ้าพื้นเมือง พูดง่ายๆ ว่ากระทบตั้งแต่โรงแรมหรูยันแผงค้าขายริมทางเลยทีเดียว
เอาเป็นว่า ภายใน 7 วันที่นายกฯสั่งการเอาไว้ ขอให้หมอกควันฝุ่นละอองพิษเบาบางลงจริงๆเถิด
ขอให้ดีขึ้นก่อนจะถึงสงกรานต์เถิด
วิกฤตที่เกิดในภาคเหนือหนนี้ เป็นไปอย่างยาวนาน รุนแรงมากกว่าทุกๆ ปี ทั้งที่เป็นปัญหาซึ่งเกิดขึ้นตามฤดูกาล แต่น่าแปลกใจที่เราไม่มีมาตรการแก้ไขอย่างเป็นเรื่องเป็นราวและก่อนจะเกิดปัญหา
จนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มพูดกันว่า ถ้าผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้การเมืองไม่มั่นคงพอ ทำให้ต้องเลือกตั้งกันใหม่ในเวลาอีกไม่นานนัก ก็จะเป็นเรื่องดีมากๆ
เพราะฝีมือของคนที่จะมาเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ปากท้องเศรษฐกิจ รวมทั้งวิกฤตฝุ่น จะต้องมีประเด็นสำคัญให้คนภาคเหนือต้องใช้ในการตัดสินใจ
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน