สถานีคิดเลขที่12 : สิทธิ(อำนาจ)พิเศษ : โดยจำลอง ดอกปิก

ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯเปิดห้องติว ส.ส.

ในโครงการสัมมนา เรื่องบทบาทหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการสนับสนุนการดำเนินงาน และการให้บริการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

มีหลายเรื่องที่หยิบยกมาพูดในเวทีแห่งนี้

อย่างขอให้ตระหนักในหน้าที่ ส.ส.

Advertisement

พิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.สำคัญ งบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ได้เรียกร้อง ส.ส. ร่วมกันพิจารณา เนื่องจากในภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ การผ่านหรือไม่ผ่าน มีผลต่อรัฐบาล หากแพ้ก็จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้

ประเด็นนี้ แม้ไม่พูดจำเพาะเจาะจงฝ่ายใด

แต่หากมุ่งไปที่การต่อสู้ ยกปมแพ้-ชนะมีผลต่อการดำรงคงอยู่ของรัฐบาล

Advertisement

น่าจะต้องการสื่อสารถึง ส.ส.เสียงข้างมากเป็นหลัก

อีกเรื่อง ซึ่งความจริง ระดับ ส.ส.-ผู้แทนปวงชนชาวไทย อาจไม่จำเป็นต้องอบรม การวางตัว ปฏิบัติตัวด้วยซ้ำ

เนื่องจากเป็นพื้นฐาน เป็นเบื้องต้นที่คนเป็น ส.ส.พึงรู้ ผิดชอบชั่วดี สิ่งใดควรกระทำ ไม่พึงกระทำเด็ดขาด

แต่ประธานสภานำเรื่องในอดีตมาเล่า กระตุกเตือนอย่าได้ทำแบบนี้อีก

เพราะอาจส่งผลกระทบ ให้ได้รับความเดือดร้อนในวันข้างหน้า

นั่นคือการใช้สิทธิพิเศษ โดยสารเครื่องบิน ติดหนี้สายการบินแล้วเบี้ยวจ่าย การยกสิทธิพิเศษใช้บริการรถไฟ รถทัวร์ บขส.ฟรีให้กับบุคคลอื่น การใช้งบเดินทางไปดูงานต่างประเทศแต่กลับไปช้อปปิ้ง และเรื่องอะไรต่อมิอะไร ที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ กติกา

นายชวนระบุว่า ที่พูดเพราะเป็นความปรารถนาดี อยากเห็นฝ่ายนิติบัญญัติมีความหมายมากขึ้น เป็นที่ยอมรับ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองและพาสภาของเราไปสู่การยอมรับของประชาชนมากขึ้น …ต้องช่วยกันนำพาประชาธิปไตยไปในทางที่ถูกต้อง …หากเรายอมรับสิ่งที่ไม่ถูกต้องเท่ากับนำสภาไปสู่ความดำมืดและนำประชาธิปไตยไปสู่สิ่งที่ไม่พึงปรารถนา

เรื่องที่ประธานสภา กล่าวเปิดสัมมนานั้น เป็นข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตทั้งสิ้น มิได้มีการต่อเติมเสริมแต่ง

แต่ก็เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ของผู้ไม่เคารพกฎเกณฑ์ กติกา ที่มีอยู่ในทุกวงการ ทุกอาชีพ

อย่างไรก็ตาม การหยิบยกเรื่องที่จะว่าไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลักการสำคัญมากนักมาพูด ของประธานสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าที่จริง ระดับ ส.ส. ผู้ได้ชื่อเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่จำเป็นต้องอบรมการปฏิบัติตัวยิบย่อยในเรื่องอันเป็นพื้นฐานที่ควรต้องแยกแยะได้อย่างนี้

แต่พูดถึง นำมาเตือน ก็มิใช่เรื่องเสียหายอะไร

และคงเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นประโยชน์ต่อ ส.ส.บ้าง ไม่มากก็น้อย

แต่ยังมีบางเรื่องที่ ประธานชวนไม่ได้พูดถึง อาจหลงลืมหรือด้วยเหตุผลกลใดมิทราบได้

มันเป็นเรื่องในอดีต เช่นเดียวกับการใช้สิทธิพิเศษ พฤติกรรมแย่ๆ ของ ส.ส.

แต่เลวร้ายยิ่งกว่า

นั่นก็คือ เรื่องที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย มาจากการเลือกตั้งแท้ๆ กลับไม่ยึดมั่นในระบบรัฐสภา ไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย

ที่จริงจำเป็นยิ่งต้องเรียกร้องในเรื่องนี้ จี้ ส.ส.ทบทวน นำวิกฤตการเมืองก่อนการรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 มาเป็นบทเรียนเล่มใหญ่

อย่าได้เลอะอีกเป็นอันขาด

นับจากนี้ไป ไม่ว่า ส.ส.พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย เพื่อไทย อนาคตใหม่ ไม่ว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์หรือพรรคใด ต้องเล่นตามกติกา เคารพกฎเกณฑ์

แพ้-ชนะอยู่ในวิถีทาง การต่อสู้ในระบบรัฐสภา

ถ้าไม่รู้จักแพ้ รู้จักแต่ชนะอย่างเดียว

พ่ายในสภาก็ออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนน สร้างเงื่อนไขปูทางอำนาจนอกระบบ

ไม่ยอมรับกติกา ไม่ยอมรับแม้กระทั่งการใช้กระบวนการเลือกตั้งเป็นทางออกแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

ทุกสิ่งอย่าง ประเทศชาติบ้านเมืองพังเสียหายแน่นอน

วินาศสันตะโร ยิ่งกว่าการใช้สิทธิพิเศษมากนัก อย่างชนิดเทียบกันไม่ติด

ประธานจำได้แต่สิ่งละอันพันละน้อย

เรื่องใหญ่สำคัญ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหลักการ-เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา

หลงลืมไปได้อย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image