ตอนนี้มีข่าวว่าเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญกำลังเป็นหมัน
เพราะพรรคร่วมรัฐบาลมองว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
ประเด็นก็คือ เรื่องจะเร่งด่วนหรือไม่เร่งด่วนก็สามารถบรรจุเอาไว้ในนโยบายรัฐบาลได้
เพียงแต่นโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนั้น จะมีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเปล่า
ถ้ามีก็ถือว่าเป็นคำสัญญาที่รัฐบาลแถลง แต่ถ้าไม่มีคงต้องย้อนกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ว่าจะแสดงท่าทีเช่นไร
ทั้งนี้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ย้ำเงื่อนไขโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมรัฐบาลว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายขึ้นค่าแรง ที่กำลัง “เข้าใจไม่ตรงกัน”
ชาวบ้านเข้าใจว่าหมายถึงค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 400 บาท โดยไม่ต้องพัฒนาฝีมือแรงงาน
แต่คำอธิบายของรัฐบาลในขณะนี้คือ ต้องพัฒนาฝีมือก่อน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คิดถึง การเมืองก่อนรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ประชาชนเบื่อนักการเมือง
สาเหตุหนึ่งมาจาก การโกหก
นโยบายที่นักการเมือง และพรรคการเมืองหาเสียง เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ไม่ยอมทำ
อ้างว่า ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐบาลผสม ทำไม่ได้เพราะไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล
ณ เวลานั้นนโยบายหาเสียงจึงดูไร้ค่า ประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ
แต่ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 การเลือกตั้งปี 2544 ได้เกิดพรรคไทยรักไทยขึ้น
พรรคไทยรักไทยนำเสนอนโยบายหาเสียง และยืนยันว่าทำได้
และใช้เวลาระหว่างปี 2544 ถึงปี 2548 ยืนยันว่ารัฐบาล ทำได้ตามที่พูด
การเลือกตั้งปี 2548 ประชาชนจึงเทคะแนนให้พรรคไทยรักไทยอีกครั้งอย่างท่วมท้น
ชาวบ้านเริ่มรู้สึกว่านักการเมืองไม่หลอก พรรคการเมืองไม่โกหก นโยบายหาเสียงเป็นสิ่งที่ต้องฟัง
ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในปี 2550 หลังจากเกิดการรัฐประหารครั้งแรก เมื่อปี 2549
ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในปี 2554 หลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553
สาเหตุหนึ่งก็มาจากความเชื่อมั่นว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองไม่หลอก
การเมืองเบี่ยงเบนประเด็นไปเป็นการทุจริต
มีแต่เรื่องนโยบายประชานิยม ไม่มีเรื่องนโยบายโกหก
กาลเวลาผ่านมาถึงปี 2562 ประชาชนยังคาดหวังว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองไม่หลอกลวง
“ไม่โกหก ไม่หลอกลวง” เป็นพฤติกรรมของคนดี
ยุคปฏิรูปการเมืองควรจะยึดถือศีลข้อ 4 ไม่มุสา
การแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 25 กรกฎาคม จึงเป็นอีกวันที่จะพิสูจน์ว่า การเมืองไทยเดินไปข้างหน้าหรือก้าวถอยหลัง
พิสูจน์ว่าการเมืองยังยืนยันในนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ว่าทำได้จริงๆ หรือไม่
วันที่ 25 กรกฎาคม เป็นวันแรกที่จะพิสูจน์สัจจะด้วยคำพูด
หลังจากวันที่ 25 กรกฎาคม จึงจะเป็นการพิสูจน์สัจจะด้วยการทำ
ดังนั้น วันที่ 25 กรกฎาคม จึงเป็นวันที่ประชาชนได้เริ่มสัมผัสกับการเมืองยุคใหม่
การเมืองไทยในยุคที่ประเทศไทยเพิ่งถูกแช่แข็งมา 5 ปี
จะได้สัมผัสกับการเมืองยุคนี้ยังยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้หรือไม่
วันที่ 25 กรกฎาคม ชักชวนกันติดตามการประชุมรัฐสภาในวาระรัฐบาลแถลงนโยบาย
แล้วคงได้พิสูจน์สัจจะนักการเมืองในปี 2562 ร่วมกัน
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]