สถานีคิดเลขที่ 12 : 25 ก.ค.พิสูจน์สัจจะ : โดย นฤตย์ เสกธีระ

ตอนนี้มีข่าวว่าเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญกำลังเป็นหมัน
เพราะพรรคร่วมรัฐบาลมองว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน

ประเด็นก็คือ เรื่องจะเร่งด่วนหรือไม่เร่งด่วนก็สามารถบรรจุเอาไว้ในนโยบายรัฐบาลได้

เพียงแต่นโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนั้น จะมีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเปล่า

ถ้ามีก็ถือว่าเป็นคำสัญญาที่รัฐบาลแถลง แต่ถ้าไม่มีคงต้องย้อนกลับไปที่พรรคประชาธิปัตย์ว่าจะแสดงท่าทีเช่นไร

Advertisement

ทั้งนี้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ย้ำเงื่อนไขโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมรัฐบาลว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายขึ้นค่าแรง ที่กำลัง “เข้าใจไม่ตรงกัน”

ชาวบ้านเข้าใจว่าหมายถึงค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 400 บาท โดยไม่ต้องพัฒนาฝีมือแรงงาน

Advertisement

แต่คำอธิบายของรัฐบาลในขณะนี้คือ ต้องพัฒนาฝีมือก่อน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คิดถึง การเมืองก่อนรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ประชาชนเบื่อนักการเมือง

สาเหตุหนึ่งมาจาก การโกหก

นโยบายที่นักการเมือง และพรรคการเมืองหาเสียง เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ไม่ยอมทำ

อ้างว่า ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐบาลผสม ทำไม่ได้เพราะไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล

ณ เวลานั้นนโยบายหาเสียงจึงดูไร้ค่า ประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ

แต่ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 การเลือกตั้งปี 2544 ได้เกิดพรรคไทยรักไทยขึ้น

พรรคไทยรักไทยนำเสนอนโยบายหาเสียง และยืนยันว่าทำได้

และใช้เวลาระหว่างปี 2544 ถึงปี 2548 ยืนยันว่ารัฐบาล ทำได้ตามที่พูด

การเลือกตั้งปี 2548 ประชาชนจึงเทคะแนนให้พรรคไทยรักไทยอีกครั้งอย่างท่วมท้น

ชาวบ้านเริ่มรู้สึกว่านักการเมืองไม่หลอก พรรคการเมืองไม่โกหก นโยบายหาเสียงเป็นสิ่งที่ต้องฟัง

ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในปี 2550 หลังจากเกิดการรัฐประหารครั้งแรก เมื่อปี 2549

ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในปี 2554 หลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553

สาเหตุหนึ่งก็มาจากความเชื่อมั่นว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองไม่หลอก

การเมืองเบี่ยงเบนประเด็นไปเป็นการทุจริต

มีแต่เรื่องนโยบายประชานิยม ไม่มีเรื่องนโยบายโกหก

กาลเวลาผ่านมาถึงปี 2562 ประชาชนยังคาดหวังว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองไม่หลอกลวง

“ไม่โกหก ไม่หลอกลวง” เป็นพฤติกรรมของคนดี

ยุคปฏิรูปการเมืองควรจะยึดถือศีลข้อ 4 ไม่มุสา

การแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 25 กรกฎาคม จึงเป็นอีกวันที่จะพิสูจน์ว่า การเมืองไทยเดินไปข้างหน้าหรือก้าวถอยหลัง

พิสูจน์ว่าการเมืองยังยืนยันในนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ว่าทำได้จริงๆ หรือไม่

วันที่ 25 กรกฎาคม เป็นวันแรกที่จะพิสูจน์สัจจะด้วยคำพูด

หลังจากวันที่ 25 กรกฎาคม จึงจะเป็นการพิสูจน์สัจจะด้วยการทำ

ดังนั้น วันที่ 25 กรกฎาคม จึงเป็นวันที่ประชาชนได้เริ่มสัมผัสกับการเมืองยุคใหม่

การเมืองไทยในยุคที่ประเทศไทยเพิ่งถูกแช่แข็งมา 5 ปี

จะได้สัมผัสกับการเมืองยุคนี้ยังยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้หรือไม่

วันที่ 25 กรกฎาคม ชักชวนกันติดตามการประชุมรัฐสภาในวาระรัฐบาลแถลงนโยบาย

แล้วคงได้พิสูจน์สัจจะนักการเมืองในปี 2562 ร่วมกัน

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image