สถานีคิดเลขที่12 : ป่าล้อมเมือง-แก้รธน. : โดย จำลอง ดอกปิก

นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ภาคส่วนต่างๆ กระตือรือร้น เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 มรดกตกทอดจาก คสช.

คณะล่าสุดที่ก่อตัว เปิดตัวคือ “เครือข่ายภาคีเพื่อการรณรงค์และเคลื่อนไหวการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปเพื่อประชาธิปไตยและประชาชน” มี อนุสรณ์ ธรรมใจ เป็นประธานคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งเครือข่ายฯ

เครือข่ายนี้ได้ชี้แจงต่อสาธารณชนไปแล้วว่า ต้องการแสวงหาความร่วมมือประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยทั้งหลายจะได้ร่วมกันผลักดันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตและปากท้องที่ดีขึ้นของประชาชนผ่านการร่วมกันสร้างกติกาสูงสุดใหม่หรือรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

รณรงค์แก้ไข สร้างฉันทามติในสังคมร่วมกันในการเห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการสร้างฉันทามติในการทำให้เกิดรัฐธรรมนูญปี 2540

Advertisement

เปิดกว้างพร้อมหารือกับคณะผู้บริหารประเทศและสมาชิกรัฐสภา ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านอิสระ ฝ่ายรัฐบาลอิสระ เพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ในการเปิดช่องทางในการแก้ไขเนื้อหาให้เป็นประชาธิปไตย

การประชุมในเบื้องต้น ได้เสนอให้ รศ.ดร.โคทม อารียา เป็นประธานองค์กรภาคีเครือข่ายที่จะจัดตั้งขึ้น

ภารกิจใหญ่ ก็เช่น ประสานความร่วมมือมายังองค์กรและเครือข่ายต่างๆ ที่มีจุดยืนร่วมกันเพื่อประชาธิปไตยและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สื่อสารเพื่อให้สังคมเห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไข ประสานองค์กรตามกฎหมายให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศโรดแมปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ประกาศเอาไว้ในนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา

Advertisement

เป้าหมายปลายทางคือผลักดันให้เกิดการลงประชามติ (หรือมติประชาชน) ในการแก้ไขมาตรการที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และใช้รูปแบบ ส.ส.ร. โดยหลายภาคส่วนเสนอว่าให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน โดยให้มีการกำหนดกรอบเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นอย่างชัดเจน

นับว่าเป็นอีกเครือข่ายภาคีที่มีการวางแผนอย่างเป็นลำดับขั้นตอนในการรณรงค์เคลื่อนไหว เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้จงได้

ก่อนหน้านี้มีภาคส่วนต่างๆ รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้านขยับออกตัวไปบ้างแล้ว ซึ่งในที่สุด เส้นทางของฝ่ายต่างๆ ที่มีจุดยืนเดียวกันคงมาบรรจบกันเพื่อผลักดันร่วมกันต่อไป

การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แต่บรรจุอยู่ในข้อสุดท้ายลำดับที่ 12

การจัดลำดับความเร่งด่วนของปัญหาที่ต้องแก้ไข เป็นภาพสะท้อนที่เป็นคำตอบในตัวว่า แท้จริงแล้วรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคแกนนำ พลังประชารัฐ อยากให้มีการแก้ไขจริงๆ หรือว่าไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องรับเงื่อนไข แลกกับการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์

อย่างไรก็ตาม อาจไม่เป็นธรรมนัก หากจะกล่าวหาว่ารัฐบาลปิดประตูตาย ไม่แก้รัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด เนื่องจากชุบชีวิตและให้อนาคต

แม้ว่ารัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คน จะประกาศท่าทีว่ารัฐบาลไม่คิดแก้

แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำรัฐบาลมิได้ประกาศเอง แต่ที่พบเห็นโดยทั่วไปแล้ว รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลนี้ หากไม่ได้สื่อสาร หรือรับสัญญาณ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าประกาศท่าทีอะไรโดยเฉพาะเรื่องใหญ่ หัวข้อใหญ่ที่เป็นระดับนโยบาย และเรื่องสำคัญเช่นนี้

จึงน่าเชื่อได้มา ท่าทีชัดเจนเป็นที่ยิ่งว่ารัฐบาลไม่คิดแก้

แต่กระนั้นก็คงไม่ปิดประตูตาย

หากทว่าภาคส่วนต่างๆ ได้รณรงค์และเกิดแนวร่วมอย่างกว้างขวาง ระดับมติประชาชน

รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน

แท้จริงแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไม่ยากหรอก แต่ที่ยากกว่าคือการเปลี่ยนความคิดบิ๊กๆ กุมอำนาจ กำหนดวาระประเทศไทย ไม่กี่คน

อาจไม่ยุติธรรมนักที่ต้องใช้พลัง ทรัพยากรการรณรงค์ เสียงมหาศาล มาเปลี่ยนใจคนไม่กี่คน

แต่ก็ไม่มีทางเลือกสันติวิธี สู้กับอำนาจดีกว่านี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image