สถานีคิดเลขที่12 : ป้องกันไวรัส : โดย นฤตย์ เสกธีระ

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนไปยังทั่วประเทศ และกำลังกังวลกันว่าจะกระจายไปทั่วโลกในขณะนี้ เป็นอีกความท้าทายที่รัฐบาลไทยต้องเผชิญหน้า

ประการแรกคือ การป้องกันพลเมืองมิให้ตกเป็นเหยื่อของไวรัส

พลเมืองที่ว่านี้มีทั้งคนไทยที่อยู่ในประเทศ และคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ

และถ้าจะรวมถึงทุกชีวิตในผืนแผ่นดินไทยก็ยิ่งดี

Advertisement

ประการสองคือ การประคับประคองผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โดยที่เห็นกันชัดๆ คือปัญหารายได้จากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน

และอาจจะรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอื่นๆ ที่ได้ฟังข่าวคราวแล้วยกเลิกการมาทัวร์

ทั้งหมดนี้เชื่อว่า รัฐบาลไทยจะ “สอบผ่าน” แต่ทุกอย่างต้องมีผู้กำกับดูแลอย่างไม่ประมาท

Advertisement

เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้มีต้นเหตุมาจากค้างคาว

เชื้อไวรัสดังกล่าวทำให้คนเป็นโรคปอดอักเสบ หรือปอดบวม

ขณะที่ปิดต้นฉบับอยู่นี้มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวแล้ว 80 คน

เป็นจำนวนที่ก้าวกระโดดจากผู้เสียชีวิตที่นับจำนวนเป็นเลขตัวเดียวเมื่อไม่กี่วันก่อน

มาบัดนี้กำลังจะกลายเป็นเลข 3 หลัก

ด้วยจำนวนที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น

เพราะไวรัสนี้ติดต่อคนสู่คน ติดต่อจากการแพร่เชื้อด้วยการไอ จาม น้ำมูก

แม้จะมีระยะเวลาฟักตัว 2 สัปดาห์ แต่จีนเปิดเผยว่า แค่รับเชื้อก็พร้อมจะแพร่เชื้อได้ทันที

ดังนั้น การประโคมข่าวให้รู้เท่าทันเพื่อแก้ไขจึงเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยกันป้องกันการสูญเสีย

สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขแถลงพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าว 8 ราย

ในจำนวนนี้มี 5 รายได้รับการรักษาและแพทย์ให้กลับบ้านได้

เหลือนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอีก 3 ราย

แสดงว่าคนที่ป่วยยังสามารถรักษาให้หาย แต่ถ้าไม่ป่วยได้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า

นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนไทยในอู่ฮั่นที่รัฐบาลต้องให้การดูแล และยังมีนักเรียนไทยในจีนที่ต้องเอาใจใส่ไม่แพ้กัน

ต้องเอาใจใส่ทั้งใจและกาย ต้องดูแลเรื่องป่วยเจ็บและดูแลขวัญกำลังใจ

หากรู้สึกกลัวว่าไวรัสจะเป็นภัยก็น่าจะอำนวยความสะดวกให้กลับบ้าน

คาดกันว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อไปอีก 3 เดือน

รอจนกว่าจะผลิตวัคซีนที่สามารถสกัดกั้นไวรัสตัวนี้ได้

ขณะนี้จึงต้องดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท ท่องคาถา “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” เอาไว้

หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

การเดินทางไปต่างประเทศหากไม่จำเป็นก็ควรระงับไปพลางก่อน

การเข้าไปในที่แออัดก็ต้องรู้จักป้องกัน มีหน้ากากอนามัยใส่ไว้

การกินอาหารที่เป็นสัตว์แปลก การกินอาหารดิบ ฯลฯ ก็ควรละเว้น

ออกกำลังกาย ทำร่างกายให้อบอุ่น และอื่นๆ

ส่วนรัฐบาลนอกจากให้ข้อมูลข่าวสาร อำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดโรคแล้ว

การดูแลเรื่องฝุ่นพิษ เรื่องน้ำดื่ม และป้องกันการแพร่ระบาด

ทุกอย่างล้วนพึงกระทำ

เพราะทุกชีวิตมีความสำคัญ ต้องช่วยกันป้องกัน มิให้ไวรัสมาพรากชีวิตให้หลุดลอยไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image