สถานีคิดเลขที่ 12 : ใครปลุกปั่นนักศึกษา : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

มีความพยายามตั้งข้อกล่าวหาว่า มีคนยุยงปลุกปั่นนักศึกษาให้ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงระยะนี้ โดยโยงไปถึงพรรคการเมืองที่เพิ่งถูกยุบไป คนที่มองแบบนี้ อาจจะใช้ความเคยชินเก่าๆ เข้ามาจับภาพการก่อแฟลชม็อบของคนรุ่นใหม่ ต้องมีคนวางแผน มีคนจ่ายเงิน อะไรแบบนี้

หรือไม่ก็รู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่การโจมตีว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง และบรรดาเด็กนักเรียนนักศึกษาถูกหลอกถูกปั่นหัว ก็เพื่อทำลายความชอบธรรมของกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กำลังลุกลามไปทั่วประเทศ

อันที่จริง จะเห็นได้ชัด ว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยต่างๆ และตามโรงเรียนต่างๆ นั้น

ไม่มีผู้นำ ไม่มีกลุ่มองค์กรหรือขบวนการใดเป็นที่รวมศูนย์การนัดหมายเคลื่อนไหว

Advertisement

แต่การที่ขยายตัวไปตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ จนแทบจะครบทุกมหาวิทยาลัยแล้วเช่นนี้

ถ้ามีคนยุยงปลุกปั่นจริงๆ จะต้องเป็นผู้ที่มีความเก่งกาจสามารถอย่างมาก

ต้องเดินสายไปปั่นหัวเด็กๆ ทั่วประเทศเลยทีเดียว

Advertisement

แถมที่ผ่านมาบางวัน แฟลชม็อบพร้อมกันนับสิบสถาบัน

จะแบ่งภาคแยกกำลังคนปลุกปั่นได้ยังไงก็ยังเข้าใจได้ยาก

แล้วถ้าต้องไปยุยงกันอย่างโจ๋งครึ่มขนาดนี้ ป่านนี้ต้องปรากฏร่องรอยหลักฐานให้ได้เห็นกันแล้ว

เรื่องกล่าวหากันแบบนี้ ต้องตั้งสติกันให้ดี ฟังแล้วน่าเป็นห่วง

เพราะการออกมากล่าวหาว่านักเรียนนิสิตนักศึกษาว่าถูกหลอก ถูกปั่นหัว ซึ่งมีน้ำหนักความเป็นไปน้อยมาก จึงมีผลเท่ากับเติมฟืนเข้ากองไฟดีๆ นี่เอง

ไปดูหมิ่นท้าทายพลังคนรุ่นใหม่กันแบบนี้ ระวังจะยิ่งไปกันใหญ่

อย่างที่เขาเปรียบกันว่า ไดโนเสาร์เต่าล้านปี ย่อมตามไม่ทันโลกในยุคดิจิทัลนั้น ก็คงเป็นเช่นนี้จริงๆ

คนรุ่นใหม่ในสังคมโซเชียล ทวิตเตอร์ วิพากษ์วิจารณ์การเมืองร้อนแรงมาตั้งแต่การรัฐประหาร คสช.แล้ว ไม่ยอมรับการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิธีโบราณ ซึ่งจะฉุดให้สังคมไทยถอยหลัง อันสวนทางกันความคิดของคนหนุ่มสาวอย่างสิ้นเชิง

แถมการสืบค้นข้อมูล การตรวจสอบข่าวจริงข่าวเท็จ คนเหล่านี้เก่งกาจอย่างมาก ไม่มีใครไปหลอกได้ง่ายๆ

พอเปิดเลือกตั้ง 24 มีนาคม 62 เขาก็เห็นกันหมดว่า มีการสร้างกติกาให้กลุ่มอำนาจเดิม ไปต่อได้อย่างไร คำนวณ ส.ส.กันพิสดารอย่างไร สุดท้ายพอไปกำจัดพรรคการเมืองที่เป็นความหวังของคนรุ่นนี้ ก็เลยเหมือนฟางเส้นสุดท้าย

กระแสจัดแฟลชม็อบจึงขยายตัวผ่านทวิตเตอร์ แล้วก็ลุกออกมากันเองตามสถาบันการศึกษาต่างๆ

ปรากฏการณ์แบบนี้ มีให้เรียนรู้ในหลายๆ ประเทศ การต่อต้านรัฐบาล โดยไม่ต้องมีผู้นำไม่ต้องมีองค์กรนำ ไม่ต้องมีคนวางแผนปลุกปั่น ทำกันมาเยอะแล้ว

คิดหาทางออกที่ดีๆ เพื่อไม่ต้องถึงจุดรุนแรง ไม่ต้องสูญเสียกันดีกว่า

ถ้ารัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้องมาตลอด แต่ไม่เคยเป็นอะไร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร อยู่ได้สบายๆ ลอยนวล

นี่แหละคือตัวปลุกปั่นยุยงที่แท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image