สถานีคิดเลขที่ 12 : ปฏิกิริยาในโพล : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
ผลโพลของมติชนออนไลน์ ที่ตั้งประเด็นสอบถามความคิดเห็นผู้อ่าน ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย กับการที่รัฐบาลจะยืดเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกไปอีก หลังจากคำสั่งสิ้นสุดลงในวันสิ้นเดือนเมษายน
น่าคิดว่า ผลคือคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ที่จะยืดเวลาห้ามการจำหน่ายเหล้าเบียร์ออกไปอีก
โดยทางทวิตเตอร์ ไม่เห็นด้วย 86.5 เปอร์เซ็นต์ ที่เห็นด้วย 13.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทางเฟซบุ๊ก ไม่เห็นด้วย 79 เปอร์เซ็นต์ และเห็นด้วย 21 เปอร์เซ็นต์
ทั้งที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มักตีความในทางเลวร้าย เป็นอบายมุข ขัดศีลธรรมอันดีงาม ทำลายสุขภาพร่างกาย
แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่เห็นด้วยกับคำสั่งห้ามจำหน่ายที่จะขยายออกไปอีก
แน่นอนว่านักดื่มทั้งหลาย ต้องไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว แต่เป็นไปได้ว่า คนที่ไม่ใช่นักดื่มก็อาจจะร่วมแสดงความคิดเห็นในทางไม่เห็นด้วย
โดยสังเกตได้จากคอมเมนต์ต่อท้ายโพลนี้ ที่ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเพราะการสร้างความรู้จักรับผิดชอบเป็นเรื่องดีกว่า
หรือไม่เห็นด้วย เพราะแอลกอฮอล์ไม่ใช่สาเหตุหลักของการแพร่เชื้อ มันอยู่ที่ความรับผิดชอบและการมีวินัยของคนมากกว่า
อะไรทำนองนี้
เป็นความเห็นในลักษณะที่ ไม่พึงพอใจต่อคำสั่งหรือมาตรการ ที่บังคับให้คนต้องทำตามราวไม่มีสติปัญญาความคิด มองว่าคนไทยไม่มีวิจารณญาณเพียงพอ
เท่าที่สังเกตดู การห้ามจำหน่ายเหล้าเบียร์ในช่วงแรก เป็นช่วงเข้าเทศกาลสงกรานต์ นอกจากรัฐบาลไม่ให้เป็นวันหยุดเหมือนทุกปี ไม่ให้มีกิจกรรมละเล่นรื่นเริงใดๆ ยังห้ามมั่วสุมสังสรรค์ โดยการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มเหล่านี้
ตอนนั้นประชาชนก็พอเข้าใจและยอมรับได้ แต่เมื่อพ้นเทศกาลมาแล้ว อีกทั้งเงื่อนไขการนัดพบสังสรรค์ดื่มกินกันก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้วในวันนี้
เมื่อยังห้ามอีก จึงเริ่มรู้สึกว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมา โดยยังตึงไม่มีหย่อน ยังเข้มไม่มีผ่อน แสดงว่ายังไม่เชื่อมั่นประชาชน
คงแปลความว่า เดือนสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนร่วมมืออยู่กับบ้านนั้น เป็นผลสำเร็จจากคำสั่ง เป็นผลสำเร็จจากอำนาจ พ.ร.ก. แต่ไม่ได้มาจากความรู้จักผิดชอบชั่วดีของชาวบ้านเองแต่อย่างใด
หรือวันนี้ ถ้าคนที่จะดื่ม เขาก็ดื่มภายในบ้าน ดื่มเอง ผ่อนคลายระหว่างใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ใช่การล้อมวงเฮฮาอะไร
ก็ยังโดนห้ามอีก
คล้ายการสั่งให้ทำและบังคับให้ทำ โดยไม่คำนึงถึงรายละเอียดในชีวิตผู้คนที่อยู่ในสภาพต้องเก็บกักตัว
ดังนั้นความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีห้ามเหล้าเบียร์ จึงไม่ใช่แค่เรื่องการดื่มของมึนเมา
แต่ยังหมายถึงสิทธิส่วนบุคคล หมายถึงเสรีภาพที่จะคิดจะไตร่ตรองว่าจะร่วมมือกับมาตรการต่างๆ ด้วยความเข้าใจความรู้สึกผิดชอบชั่วดีด้วยตัวเอง
รวมทั้งอาจหมายถึงปฏิกิริยา ที่เริ่มอึดอัดต่อสภาพชีวิต ที่เอาเหตุผลเรื่องสุขภาพมาอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
การบริหารสถานการณ์โควิดและการบริหารประเทศชาตินั้น จะใช้แต่อำนาจอย่างเดียว คิดแทนชาวบ้านทุกอย่าง ก็จะกลายเป็นปัญหาการไม่ยอมรับ มีตัวอย่างให้เห็นนักต่อนัก
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน