ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
นักวิเคราะห์-คอการเมืองจำนวนมาก อาจมองกลุ่มเยาวชนปลดแอก, แนวร่วมนวชีวิน, #ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน, #วิ่งกันนะแฮมทาโร่ และ #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ฯลฯ เป็น ตัวละครใหม่ เป็น องค์ประกอบใหม่ ของการเมืองไทยร่วมสมัย
เป็น ความใหม่ อันขับเคลื่อนโดย คนรุ่นใหม่ ซึ่ง คนรุ่นเก่า โดยเฉพาะที่กำลังมีอำนาจบริหารปกครองประเทศอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีวันจะเข้าใจ
เป็น พัฒนาการใหม่ อีกเฟสหนึ่ง ถัดจากการเคลื่อนไหวของคนเดือนตุลาฯ, การชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 และสงครามสีเสื้อเหลือง-แดง ในปลายทศวรรษ 2540 ถึงทศวรรษ 2550
และ/หรือเป็น แนวทางการต่อสู้แบบใหม่ ที่มีความข้องเกี่ยวหรืออ้างอิงไปยังประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนๆ น้อยมาก
เหล่านี้คือแนวคิดรวบยอดที่หลายคนกำลังใช้อธิบายอัตลักษณ์-ตัวตนของบรรดา
คนรุ่นใหม่ ซึ่งพากันออกมากู่ร้องส่งเสียงบนท้องถนน
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาไปถึงรายละเอียด แม้ในด้านหนึ่ง ม็อบคนรุ่นใหม่ จะใช้ เครื่องมือ/อาวุธใหม่ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, วัฒนธรรมมีม และวัฒนธรรมไอดอล ได้อย่างทรงพลัง ไปพร้อมๆ กับการพึ่งพา เครื่องมือเก่าๆ อาทิ เพลงเพื่อชีวิต น้อยลง
แต่อีกด้านหนึ่ง เราก็สามารถพบเห็น ประดิษฐกรรมทางวัฒนธรรม ที่ ไม่ใหม่ ปรากฏขึ้นเคียงคู่กับการต่อสู้ของ คนรุ่นใหม่ อย่างน่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม แจว ที่ฝังตัวอยู่ในสถาบันการศึกษาแทบทุกระดับมาหลายทศวรรษ
กระทั่งเพลงการ์ตูน แฮมทาโร่ ที่โลดแล่นมีชีวิตชีวาอย่างน่าตื่นเต้น ก็มีจุดกำเนิดที่ย้อนไปได้ถึงทศวรรษ 2540
ส่วนเพลง ยินดีไม่มีปัญหา ที่เด็ก เกียมอุดม นำมาแปลงอย่างแสบสัน ก็คือผลงานของ อัสนี-วสันต์ ซึ่งนับเป็นศิลปิน รุ่นปู่ ของพวกเขาและเธอได้เลยด้วยซ้ำ
ถ้าถามว่าปรากฏการณ์เหล่านี้บ่งบอกอะไรต่อสังคมบ้าง?
คำตอบที่คิดได้ ณ เบื้องต้น ก็คือ คนรุ่นใหม่ ที่ออกมารวมตัวเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่สาธารณะ ไม่ได้ตัดขาดตัวเองจาก อดีต ดังที่คนจำนวนไม่น้อยทึกทัก
ทว่าพวกเธอและเขาได้เลือกสรร อดีต บางอย่าง มาดัดแปลงเนื้อหาใจความ เพื่อรับใช้เป้าหมาย ความใฝ่ฝัน จินตนาการ และอุดมการณ์ของพวกตน
(นอกจากกิจกรรมสันทนาการ/วัฒนธรรมป๊อปอายุหลายทศวรรษซึ่งถูกนำมาฉาบเคลือบขบวนการเคลื่อนไหวแล้ว ประวัติศาสตร์ 2475 ก็เป็น อดีต อีกหมวดหมู่ ที่ คนรุ่นใหม่ ไม่ได้ละทิ้ง)
นี่หมายความว่าเป้าหมายหลักที่ ม็อบคนรุ่นใหม่ จะพุ่งทะยานเข้าปะทะชน ย่อมไม่ใช่ปัญหาเรื่องความแตกต่างระหว่างวัยหรือเจเนอเรชั่นเสียทีเดียว
หากมองผ่านสัมพันธภาพทางอำนาจใน แนวดิ่ง พวกเขาและเธอก็ไม่ได้มุ่งต่อต้าน ผู้ใหญ่ ของบ้านเมือง เพราะคนเหล่านั้น แก่
ขณะเดียวกัน ถ้ามองผ่านความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายใน แนวระนาบ พวกเขาและเธอก็มิได้พยายามจำกัดตัวเองด้วยค่านิยม-วัฒนธรรมเฉพาะแบบวัยรุ่น แต่พร้อมจะขยายการเคลื่อนไหวให้กว้างขวางครอบคลุมทุกกลุ่มคน (นำไปสู่การประกาศตั้ง คณะประชาชนปลดแอก)
ท้ายที่สุด ม็อบคนรุ่นใหม่ จะต้องเดินหน้าไปเผชิญกับปัญหาเรื้อรังชุดเดิมๆ เช่น ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบ ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ?
ถ้ามีคนกล่าวอ้างว่าเราปกครองประเทศด้วยระบอบ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ประชาธิปไตยแบบดังกล่าวสามารถจัดสรรแบ่งปันทรัพยากรและผลประโยชน์ต่างๆ
รวมถึงอำนวยความยุติธรรมให้แก่สมาชิกทุกคนทุกกลุ่มในสังคมได้อย่างทั่วถึงหรือไม่?
ทำไมเส้นทางสู่ประชาธิปไตยของสังคมไทยจึงเต็มไปด้วยอุปสรรคกีดขวาง
นานัปการ?
นี่คือหัวใจหรือประเด็นหลักที่ตั้งมั่นดำรงอยู่ท่ามกลางสีสันวูบวาบเก่าๆ ใหม่ๆ อันวิ่งวนรายรอบการเคลื่อนไหวบนถนนระลอกล่าสุด
ซึ่งมีทั้งคนที่เอาใจช่วยอย่างเปี่ยมความหวัง และคนที่เฝ้ามองด้วยความหวาดกลัววิตกกังวลยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ปราปต์ บุนปาน