| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ม็อบนิสิต นักศึกษา นัดชุมนุมใหญ่ 19 กันยายน
ตั้งเป้ามวลชนเรือนแสน
ก่อนวันนัดหมาย แกนนำแย้มแผน อาจยกระดับ จากปกติรวมตัวเย็น สลายตัวช่วงมืดค่ำ หรือกลางดึก เป็นการปักหลักข้ามคืน และอาจเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลวันรุ่งขึ้น เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง
แต่เชื่อกันว่า แผนการนั้น ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
อาจชุมนุมแล้วสลายตัวเหมือนเดิมก็ได้
ค้างแรม 1 คืน 2 คืน ยื่นเงื่อนไข นัดใหม่ ทวงถามคำตอบ หรือลากยาว ก๊อบปี้เดียวกันกับม็อบเสื้อสีในอดีต มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น
ปัจจัย ตัวแปร ที่มีผลต่อการตัดสินใจ น่าจะอยู่ที่จำนวน มวลชนร่วมชุมนุมเป็นหลัก
ปริมาณการชุมนุม ขนาดของม็อบ รัฐเอง ก็ย่อมต้องโฟกัส ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ว่าจุดติด มีแนวร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
เนื่องจากส่งผลกระทบทางการเมือง เศรษฐกิจ และมิติอื่นๆ
มองข้ามไม่ได้เลย
อีกทั้งยังเป็นข้อมูลสำคัญ ที่จะนำมาประเมินสถานการณ์ ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ
จะให้ราคา ค่างวด สนองตอบต่อเงื่อนไข ข้อเรียกร้องแค่ไหน อย่างไร
ก่อนหน้านี้นักวิชาการหลายท่าน มองว่า จำนวนอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
เหตุผล ข้อเรียกร้อง 3 ประการต่างหาก ที่จะก่อผลสะเทือนต่อรัฐบาล
โดยเฉพาะข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รื้อ-ร่างใหม่ทั้งฉบับ ที่มีความชอบธรรมอย่างยิ่ง เพราะใครๆ ก็รู้ ที่มารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่ใช้อยู่ในปัจจุน รู้ลึกเนื้อหา บทบัญญัติ ว่าได้มาตรฐาน สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตยสากลหรือไม่
แต่ก็มีเสียงแย้งว่า ขนาดของม็อบ จำนวนผู้ชุมนุมยังสำคัญ
เนื่องจากเป็นอำนาจต่อรอง
มวลชนคืออาวุธหลักของการชุมนุม ยิ่งจำนวนมาก และข้อเรียกร้อง มีเหตุผล ก็ยิ่งเพิ่มพลัง อำนาจต่อรองให้กับการใช้เสรีภาพ รวมตัวเคลื่อนไหว เรียกร้อง
การชุมนุมใหญ่ 19 กันยาฯ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จำนวนมวลชนจะทะลุแสนตามเป้าหมาย
หรือขนาดย่อมกว่านั้น ในหลักหมื่น หรือหลายๆ หมื่นก็ตาม
แต่การชุมนุมครั้งนี้ อาจแตกต่างจากการชุมนุมครั้งที่ผ่านๆ มา
ในฝ่ายผู้ชุมนุม เชื่อได้ว่า จะค่อนข้างระมัดระวัง และคำนึงถึงวิธีการต่อสู้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
เนื่องจากรู้ดีว่า พลาดไม่ได้ ขบวนการต่อสู้เสียหาย
ต้องพยายามรักษาจุดแข็ง ความชอบธรรม
ไม่สร้างเงื่อนไข ปูทางรถถัง ตบเท้าใช้กำลัง ก่อให้เกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย
เรื่องเส้นสายก็ต้องประเมิน ความสามารถพิเศษของม็อบการเมืองในอดีตนั้น ลอกเลียนแบบได้หรือไม่
ขณะที่ฝ่ายรัฐ(บาล)นั้น
ถึงผู้คนจำนวนไม่น้อยมองแง่ร้าย กระหายเลือด วิเคราะห์รัฐราชการลายพราง ไม่อดทนอดกลั้นต่อม็อบ แต่ลึกๆ น่าเชื่อได้ว่า รัฐวางแผนตั้งรับ ตั้งการ์ดสูง ในแบบฉบับใหม่
เก็บอาวุธ ลดเผชิญหน้า
โจทย์ปัญหาครั้งนี้ ต้องแก้ รบอย่างละเอียดเนียน
ไม่รุกคืบ กระทืบเท้า ทำอะไรที่กระทบความรู้สึกของผู้คนในสังคมประเทศชาติ
ด้านหนึ่งคือเด็ก-เยาวชน ด้านหนึ่งคือ กำลังตำรวจ กองทัพ ภายใต้สังกัดกลาโหม อันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งควบเก้าอี้ และเป็นนายกฯรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เดินพลาดไม่ได้
เมื่อต่างฝ่ายต่างระวัง ม็อบไม่มีเส้น-รัฐบาลภูมิคุ้มกันการเมืองไม่แข็งแรง แกร่งแต่กองกำลังสนับสนุน
ด้านหนึ่งเป็นผลดี เท่ากับเป็นหลักประกัน การชุมนุม-การแก้ปัญหาจะดำเนินไปด้วยสันติวิธี
ไม่มีความรุนแรง เหมือนกับที่ผู้คนห่วงใย
แต่สันติวิธีนี้จะมั่นยืนจาก 19 กันยาฯแค่ไหน ยังเป็นคำถาม เนื่องจากปลายทาง รัฐบาลและนิสิต นักศึกษา ดาวคนละดวง
คำตอบอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
