สถานีคิดเลขที่12 : หนทางยังไกล

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เรื่องใหญ่ที่คอการเมืองติดตามกันเป็นพิเศษ คือ การตัดสินคดีชุมนุมทางการเมืองจากปี 2556-2557

ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีกลุ่ม กปปส. หรือชื่อเต็มๆ ว่า “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ “ลุงกำนัน” ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กปปส. กับพวกรวม 39 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน เหลือ 38 คน

คดีนี้ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งมีโทษหนักมาก

Advertisement

ศาลอาญาพิพากษาให้จำคุก ตั้งแต่ 1-7 ปี จำนวน 26 คน

ตามขั้นตอน บรรดาจำเลยคงขอประกันตัว เพื่อต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์

ซึ่งก็ต้องมาดูว่า ผลของคดีจะเป็นอย่างไร

Advertisement

คดีนี้ จำเลยที่ต้องโทษจำคุก มีทั้ง รมต. และส.ส. ซึ่งการต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดียังไม่ถึงที่สุด ก็ถือว่ามีคุณสมบัติต้องห้าม จะต้องพ้นจากตำแหน่ง

ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ การปรับ ครม. อย่างน้อย 3 ตำแหน่ง ของพรรคพลังประชารัฐ เป็นการทดแทนคนที่ต้องพ้นไป

หรืออาจจะเกิดการปรับเกลี่ยตำแหน่งกันใหม่ กลายเป็นการปรับใหญ่กันอีกรอบ

หากดูจากสถานการณ์ของรัฐบาลในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพรรคแกนนำรัฐบาล คือพลังประชารัฐ มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง

แม้ว่ามีการปรับ ครม.ไปแล้วรอบหนึ่ง ในห้วงที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 กุมาร ถอนตัวจากพรรคเมื่อเดือน ก.ค.2563 ที่ผ่านมา

แต่เป็นที่ทราบกันว่า การจัดสรรตำแหน่งยังไม่เข้าล็อกหรือลงตัว อาจเกิดการ “กระชับเก้าอี้” กันอีกรอบ

คดี กปปส. ทำให้เกิดการทบทวนเหตุการณ์ในปี 2556-2557 กันอีกครั้ง

ผู้ชุมนุมมีลักษณะที่แตกต่างจากการชุมนุมในปี 2563 และ 2564 ทั้งแนวคิดและวิธีการ

ม็อบในครั้งนั้น บุกสถานที่ราชการหลายแห่ง ข้าราชการใหญ่ให้ความร่วมมือบ้าง ไม่ร่วมมือบ้าง บางคนได้ “นกหวีดทองคำ” เป็นรางวัล

แกนนำประกาศตัวเป็น “รัฏฐาธิปัตย์”, การเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 ถูกขัดขวาง และเป็นโมฆะไป

สุดท้ายเกิดรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 โดยมีผลิตผลสำคัญ คือ รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ “ดีไซน์” พิเศษ เพื่อให้เกิดการครองอำนาจ
ต่อเนื่่อง

เป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกับที่รัฐสภากำลังถกกันวุ่นๆ ในวันพุธ ที่ศาลอาญาตัดสินคดีนี้นั่นเอง

เป็นภาพสะท้อนว่า เวลาผ่านนับทศวรรษ จากรัฐประหาร 2549 ผ่าน 2557 ถึงปัจจุบัน การเมืองไทยยังอยู่ในวังวนยุ่งยาก รอการปลดล็อก แก้ไขให้เกิดความปกติ ซึ่งไม่ง่ายและมีแรงต้านที่รุนแรงลึกซึ้ง

ระบบของประเทศ จะนำพาประเทศกลับไปสู่ความปกติหรือไม่ เป็นคำถามที่ประชาชนและทุกฝ่ายต้องจับตาและช่วยกันตอบ

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image