สถานีคิดเลขที่ 12 : คำตอบตั้งพรรค?!

สถานีคิดเลขที่ 12 : คำตอบตั้งพรรค?!

สถานีคิดเลขที่ 12 : คำตอบตั้งพรรค?!

การเร่งมือ ยื่นจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองใหม่ หลายต่อหลายพรรค ที่มากผิดสังเกตในขณะนี้
โดยเฉพาะ พรรคที่สื่อมวลชน เรียกเป็นพรรคสำรอง

แฝดน้องพลังประชารัฐ

นำมาซึ่งคำถาม เป็นเพราะเหตุใด ถึงได้เร่งตั้งกันใหญ่

Advertisement

เนื่องจาก ไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ

แต่กลับเห็น พรรคการเมืองเตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างอึกทึกครึกโครม

คล้ายกับกระสาต่อกลิ่นยุบสภา

Advertisement

ม็อบชุมนุมเรียกร้อง คืนอำนาจประชาชน มาหลายเดือน

นับจากวันนั้นยันวันนี้ “บิ๊กตู่” มิได้มีท่าทีสนองตอบแม้แต่น้อย

มิหนำซ้ำ ยังถามกลับว่า ทำผิดอะไร

มั่นใจในว่ามีที่มาชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญเป็นที่ยิ่ง

ไม่ยี่หระ ใครจะด่าว่า ค่อนแคะ

เป็นฉบับที่ดีไซน์มาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะก็ตาม

เสียงในสภานั้นเล่าก็ปึ้ก ไม่มีปัญหาปริ่มน้ำ ฝ่ายค้าน ไม่สามารถโค่นคว่ำได้

ขณะที่ขาบริหาร แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตี ล้มเหลว แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง

แต่รัฐบาลก็ เอาหลังพิงโควิด แก้ตัววุ่น

โทษเป็นผลกระทบ จากการแพร่ระบาดทั้งสิ้น

ยกมาเป็นข้ออ้าง กลบฝีมือบริหารอ่อนด้อย

โควิดไม่กระทบกระเทือนเก้าอี้นายกฯแม้แต่น้อย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งไขว่ห้างดำรงตำแหน่งต่อไป

แล้วอะไรล่ะ ที่จะเป็นชนวน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ต้องใช้บริการพรรคการเมืองพาดไต่นั่งเก้าอี้อีกครั้ง

ในเมื่อ รัฐบาลยังอยู่ไม่ครบเทอม 4 ปี ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ในเมื่อนายกฯยืนยัน ไม่ยุบสภา ไม่มีเหตุให้ ต้องคืนอำนาจประชาชน

ปกติแล้วการยุบสภา เกิดจากเหตุผล ทั้งดี และแย่

ประการแรกนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นในไทย มีแต่เฉพาะต่างประเทศ กล่าวคือ ผู้นำรัฐบาลชิงยุบสภา ในช่วงที่คะแนนนิยมรัฐบาลอยู่ในระบบสูง เพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง

อีกประการ เคสการเมืองไทย คือเกิดความขัดแย้ง หรือวิกฤตศรัทธา รัฐบาลไปต่อไม่ได้

วิกฤตศรัทธานั้น เป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้

รัฐบาลหลายต่อหลายชุด ดื้อด้าน ไม่ยอมสละตำแหน่งและใครก็ทำอะไรไม่ได้

แต่ความขัดแย้งนั้น ปรากฏเป็นรูปธรรม และเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบริหาร ปล่อยไว้เนิ่นนาน มักตามมาด้วยวิกฤตศรัทธา ผู้คนเอือมระอา

ในที่สุดก็อยู่ไม่ได้

ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ นักการเมือง เร่งตั้งพรรคขนานใหญ่

อาจเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา หากไม่มีบางพรรค

แต่พลันที่ ปรากฏชื่อพรรคการเมืองสำรอง แฝดน้องพลังประชารัฐ ผู้คนย่อมโฟกัส

จับสัญญาณความเคลื่อนไหว

หรือว่ามีข้อมูลอินไซด์ พิเศษ

ถึงได้เตรียมพรรคไว้ สู้เลือกตั้งแต่หัววัน

และในทันทีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แบไต๋ ยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา มากมายรวม 13 มาตรา

แต่ไม่แตะต้อง ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ

หัวใจปัญหา

ใครต่อใคร เริ่มวาดภาพ การผลักดันของพลังประชารัฐ จะนำสู่อะไรบ้าง

เมื่อมีจุดยืนชัดเจน เคียงข้างอำนาจ ส.ว.

ขณะที่ฝ่ายต่างๆ เห็นเป็นประเด็นหลัก ต้องแก้ ตัดทิ้งอำนาจวุฒิสภาจากการแต่งตั้ง เนื่องจากขัดต่อหลักประชาธิปไตยสากล

ที่มานายกฯไม่ว่าเลือกตรง ทางอ้อม ต้องมาจากการโหวตเลือกของ ส.ส.ตัวแทนประชาชนเท่านั้น

วิเคราะห์ถึงขั้นที่ว่ากรณีนี้ อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นได้

นอกสภาเคลื่อนไหว ในรัฐสภาก็อาจร้อน ขับเคี่ยวรุนแรง

ไม่เพียงแต่ฝ่ายค้าน หากแต่พรรคร่วมรัฐบาล ก็อาจมีปฏิกิริยา ยอมไม่ได้

ดีไม่ดีอาจถึงขั้นแตกหัก ถอนตัว เป็นเหตุให้ต้องยุบสภา

หวนกลับมาใช้กระบวนการเลือกตั้งเป็นทางออกแก้ไขปัญหา

บนพื้นฐานข้อได้เปรียบ เลือกตั้งภายใต้กติการัฐธรรมนูญ 2560

เข้าทางรัฐบาล

พรรคสำรอง จึงจำเป็นต้องเตรียมไว้ เผื่อเหลือเผื่อขาด เผื่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้

ยุบสภาใช้กติกาเก่า

ฟอกรัฐบาล ให้มีความชอบธรรม

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image