สถานีคิดเลขที่ 12 : เดือนแห่งความหวัง

สถานีคิดเลขที่ 12 : เดือนแห่งความหวัง

สถานีคิดเลขที่ 12 : เดือนแห่งความหวัง

ถึงเดือนมิถุนายนแล้ว เดือนนี้ถือเป็นเดือนแห่งความหวัง
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้วันที่ 7 มิถุนายน เป็นวันเริ่มต้นปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

เป้าหมายหนึ่ง คือ ฉีดบุคคลที่ลงทะเบียนในแอพพ์ “หมอพร้อม” ที่เพิ่งปิดการลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม

เป้าหมายสอง คือ ฉีดบุคคลที่ไปลงทะเบียน ณ จุดบริการ หรือออน ไซต์

Advertisement

เป้าหมายสาม คือ ฉีดพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง หรือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ต้องเร่งทำให้ปลอดโรค

กรุงเทพมหานคร คือตัวอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์สั่งการอย่างเป็นรูปธรรม

ให้ฉีดวัคซีนให้คนกรุงเทพฯ 5 ล้านคน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร

Advertisement

กำหนดให้ฉีดให้เสร็จภายใน 2 เดือน

เริ่มต้นมิถุนายน เสร็จสิ้นภารกิจเดือนกรกฎาคม

สำหรับวัคซีนที่ใช้ฉีด คือ แอสตร้าเซนเนก้า 7 ล็อต

เริ่มจากมิถุนายน 6 ล้านโดส กรกฎาคม-พฤศจิกายนเดือนละ 10 ล้านโดส และธันวาคม 5 ล้านโดส

นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนซิโนแวคเข้ามาในเดือนมิถุนายนอีก 3 ล้านโดส

รวมกับจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ยังแถลงข่าวจัดซื้อ 1 ล้านโดส

คาดว่าจะนำเข้ามาภายในเดือนมิถุนายนนี้

วัคซีนซิโนฟาร์มล็อตนี้จะให้องค์กรเอกชนที่มีศักยภาพนำไปฉีดให้บุคลากรในองค์กรฟรี

ความคึกคักดังกล่าว ทำให้องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตื่นตัว

ตื่นตัวกับการปูพรมฉีดวัคซีน

นับนิ้วดูแล้วเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 6 ล้านโดส ซิโนแวค 3 ล้านโดส และซิโนฟาร์ม 1 ล้านโดส

รวมแล้ว 10 ล้านโดส

ถ้าข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ไม่คลาดเคลื่อน เดือนมิถุนายนนี้น่าจะเป็นเดือนแห่งความหวัง

วัคซีน 10 ล้านโดส ที่เข้ามาในเดือนมิถุนายน ฉีดเข็มละ 1 คน ก็ได้ 10 ล้านคน

เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเอาไว้บริการแล้วเดือนละ 10 ล้านโดส

ฉีดเข็มแรกได้อีก 10 ล้านคน

ดังนั้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามข่าว เชื่อว่าการฉีดวัคซีนของไทยจะขยับจากอันดับ 5 ของอาเซียนขึ้นเป็นอันดับ 2 ได้ภายในเร็ววัน

จากการฉีดวัคซีน 3 ล้านโดส ในขณะนี้ ให้เป็น 6-8 ล้านโดส ในเดือนนี้น่าจะทำได้

ยกเว้นเสียแต่ว่า วัคซีนไม่มากตามจำนวนที่คาดหมาย

ยกเว้นเสียแต่ว่า การฉีดวัคซีนไม่ได้ตามที่คาดการณ์

ทำไม่ได้เพราะการบริหารจัดการมีปัญหา

อาจเป็นปัญหาจากผู้บริหารที่ผลักดันให้แผนเห็นผลเป็นรูปธรรมไม่ได้

อาจเป็นปัญหาจากกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้า จัดซื้อ และฉีดวัคซีน

หรือเป็นปัญหาจากผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

แต่ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาอะไร ทุกอย่างต้องแก้ไขได้ด้วยการบริหาร

วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจในการบริหารจัดการ

ขอให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ในการบริหารจัดการให้ประชาชนสมหวัง

ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กันอย่างพร้อมเพรียง

ไม่ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเหลื่อมล้ำ

แต่ต้องทำให้เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งความหวัง

เป็นแสงสว่างให้คนไทยมีกำลังใจก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image