สถานีคิดเลขที่ 12 : 2 ใบ-สามสมัย โดย จำลอง ดอกปิก

สถานีคิดเลขที่ 12 : 2 ใบ-สามสมัย บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีผลต่อจำนวน ส.ส.

สถานีคิดเลขที่ 12 : 2 ใบ-สามสมัย โดย จำลอง ดอกปิก

บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีผลต่อจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคได้รับแน่นอน

แต่ไม่มากพอ มีนัยยะสำคัญ ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาล

กล่าวคือ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เล่นต่อ จะกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกสมัย

กรณีตัดสินใจ หันหลังให้การเมือง

Advertisement

บุคคลที่ได้รับการวางตัวเป็นทายาท จะสืบทอดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทน

นักวิชาการ ฝ่ายการเมือง วิเคราะห์กันว่าบัตรเลือกตั้งสองใบ ส่งผลดีต่อพรรคใหญ่ โดยเฉพาะเพื่อไทย ซึ่งมีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรสูงสุด

กติกาเดิม บัตรใบเดียว

Advertisement

เพื่อไทยกวาด ส.ส.เขตได้มากถึง 137 เขตเลือกตั้งเต็มจำนวน ส.ส.พึงมี

จึงทำให้ไม่มีที่นั่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ แม้แต่ 1 คน

เมื่อเปลี่ยนแปลง กลับมาใช้สองใบ

เพื่อไทย หรือพรรคใดก็ตาม มีแฟนคลับมาก ย่อมมีโอกาสสูงกว่า

พฤติกรรมการหย่อนบัตรเลือกตั้งในอดีตนั้น ประชาชนที่นิยมชมชอบ พรรคใด จะเลือกเทคะแนนเสียงให้พรรคนั้น ทั้ง ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ

ที่ใครต่อใครยกเพื่อไทยได้อานิสงส์สูงสุด

เนื่องจาก ปี 2562 ไม่ได้ ส.ส.แม้แต่คนเดียว

แต่ฐานเสียงที่ยังคงกว้างขวาง ทำให้ได้ลุ้น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มากกว่าพรรคใด

หากสามารถรักษาคะแนนเดิม

จากการเลือกตั้งระบบเขตรวมทั่วประเทศ ในปี 2562 เอาไว้ได้เป็นขั้นต่ำ

คำนวณออกมาแล้ว เพื่อไทยมีสิทธิได้ที่นั่ง ส.ส.ระบบนี้ถึงร้อยละ 30

กวาด 1 ใน 3 ของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่มีจำนวนเต็ม 100 คน

แม้จะมาก และอาจเป็นพรรคการเมืองที่เก็บเก้าอี้ในระบบบัญชีรายชื่อได้สูงสุด

จาก 0 ขยับ เพิ่มพรวด กำไร 30

ขณะที่ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งนั้น แวดวงการเมือง ก็เชื่อว่า เพื่อไทยจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิม

ด้วยเหตุผล 137 เก้าอี้ ที่ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม 2562

มาจากการส่งผู้สมัครเพียง 238 เขตเลือกตั้งเท่านั้น

เมื่อมีการแก้ไขกติกา เปลี่ยนแปลง จำนวน ส.ส.เขต กับบัญชีรายชื่อ มาอยู่ที่สัดส่วน 400:100

หากปูพรมส่ง ครบ 400 เขต

จำนวน ส.ส.ที่กวาดได้จากการเลือกตั้ง อาจมากกว่านั้น

เนื่องจากส่งผู้สมัครเพิ่ม จากครั้งเลือกตั้ง 2562 ถึง 162 เขต

อย่างต่ำสุด ส่ง 400 เขต ก็ไม่น่าได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม 137 คน จากเหตุผล มีแฟนคลับกว้างขวางทั่วประเทศ

แต่กระนั้น เพื่อไทยก็ประเมินว่า สุดเหยียด จะชนะเลือกตั้ง ภายใต้กติกาบัตร 2 ใบ

กวาดสองระบบรวมกัน แม็กซิมั่ม 200 คน

แต่ 200 คนที่ว่ามากแล้วนี้ ยังเป็นแค่เป้าหมายเท่านั้น

เทียบไม่ได้กับ ส.ว. 250 คน ที่มีอยู่จริงแท้แน่นอน 100%

เป็น 250 ส.ว. ที่รออยู่ ณ ที่ตั้ง พร้อมตบเท้าร่วมเป็นองค์ประชุมรัฐสภา 750 คน (รวมกับ ส.ส.500 คน) ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

5 มิถุนายน 2562 ส.ว. 250 คน

โหวตเลือก ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯถึง 249 คน ทำให้ชนะ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ท่วมท้น 500:244 จากจำนวนสมาชิกเข้าร่วมโหวต 747 คน ซึ่งหากหัก 249 เสียงออก

เฉพาะเสียง ส.ส.บิ๊กตู่ชนะที่ 249:244

ครองเสียงข้างมากในสภาล่างด้วยก็จริง แต่อะไร ที่สามารถโน้มน้าวให้ ส.ส.มาร่วมสนับสนุนฝั่งนี้

คนอ่านการเมืองรู้ ดูการเมืองเป็น ย่อมรู้ดี

การเลือกตั้งครั้งต่อไป เปลี่ยนใช้กติกาบัตร 2 ใบ แต่ข้อที่เป็นหัวใจการสืบทอดอำนาจยังอยู่

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

เพื่อไทยอาจชนะเลือกตั้ง กวาด ส.ส. 2 ระบบเข้ามาเป็นที่ 1 อีกครั้ง

ขยับจาก 137 เป็น 200 กรณีทำได้ทะลุเป้าหมาย

แต่คู่แข่งสำคัญ ที่เป็นเนื้อเดียวกันกับ ส.ว. กับพรรคพันธมิตร ขออีกเพียง 125 เสียง ก็จะครองความเป็นเสียงข้างมากของรัฐสภา สามารถล็อกยึดเก้าอี้นายกฯเอาไว้ได้อีกครั้ง

โจทย์ง่ายกว่ามาก

บัตร 2 ใบ จึงไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย นอกจากเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการสืบทอดอำนาจยิ่งขึ้น

เนื่องจากพรรคการเมือง รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน สนับสนุน แก้เป็นบัตร 2 ใบ

ก็ย่อมต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นตามมา

ผลการจัดตั้งรัฐบาล ที่เป็นอาณัติทางกฎหมาย มิใช่อาณัติทางการเมืองจากประชาชน

ความชอบธรรมแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image