สถานีคิดเลขที่ 12 : ระบบจดจำ โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

ระยะหลังๆ คนไทยสนใจประวัติศาสตร์ สนใจความเป็นมาของประเทศไทยกันมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

สมัยนี้ไม่ต้องเดินทางไปหมกตัวในห้องสมุดกันอีกแล้ว เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต มีสมาร์ทโฟน ก็พอที่จะย้อนอดีตหรือลุยอนาคตกันได้ง่ายๆ

เปิดคอมพิวเตอร์เข้าไปค้นหาเนื้อหาต่างๆ มีให้อ่านมากมายทั้งภาษาไทยและภาษาอื่นๆ

ระบบออนไลน์นำข้อมูลจำนวนมหาศาลมาบรรจุไว้ จะรื้อค้น เสาะหามาอ่านใหม่เมื่อไหร่ก็ได้

นักอ่านสนใจอะไร ก็น่าจะได้แก่ คนไทยมาจากไหน มาจากภูเขาอัลไตจริงหรือไม่ โดนรุกไล่ จนต้องถอยมาปักหลักเป็นไทยสยามอยู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา อย่างที่ร้องในเพลงปลุกใจจริงหรือไม่

หนังสือประวัติศาสตร์จากงานวิจัยเล่มหนึ่งบอกเราว่าสุดท้ายแล้ว ทฤษฎีคนไทยมาจากอัลไต เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศในยุคสงครามเย็น

แน่นอนว่า ประวัติศาสตร์สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ เป็นหัวข้อยอดนิยม

การเปลี่ยนแปลง 24 มิ.ย.2475 และปฏิวัติรัฐประหารอีกหลายครั้งที่ติดตามมา ก็ฮอตได้เรื่อยๆ

รายละเอียดของ 2475 นับวันยิ่งเป็นที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็น คณะราษฎร ผู้ก่อการ 24 มิ.ย. เส้นทางของคณะราษฎร ใครคือคณะราษฎร

ความสำเร็จ ความผิดพลาด และคุณูปการของคณะราษฎร มีการค้นคว้าอย่างกว้างและลึกมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นหัวข้อถกเถียง

ต้องให้เครดิต กับนักวิชาการหลายรุ่นที่ทำงานค้นคว้าอย่างจริงจัง ทำให้เกิดเนื้อหาที่น่าสนใจ หนังสือดีๆ ที่อ่านกันได้เรื่อยๆ

การเปลี่ยนแปลงโดยคณะราษฎรไม่ได้ราบรื่น ตรงกันข้าม การต่อสู้เพื่อขัดขวางการเติบโตของระบบใหม่ดำเนินมาเรื่อยๆ

เกิดการช่วงชิงอำนาจ ช่วงชิงผลประโยชน์ ในรูปของรัฐประหารจากอดีต เมื่อ พ.ศ.2476 จนถึงปัจจุบันหมาดๆ ครั้งที่ 13 เมื่อ 22 พ.ค.2557 นี่เอง

จะเกิดอีกหรือไม่ ยังไม่มีใครกล้าฟันธง

ระบบอินเตอร์เน็ตให้ข้อมูลเบื้องหน้าเบื้องหลังการรัฐประหารแต่ละครั้ง หัวหน้าคณะรัฐประหาร นายกรัฐมนตรีจากรัฐประหาร และนายกฯ จากเลือกตั้ง

เรื่องของสภาลากตั้ง และสภาเลือกตั้ง

ใครเป็นขาใหญ่ของระบบลากตั้ง ใครเป็นนักต่อสู้ หรือนักฉวยโอกาสในระบบเลือกตั้ง

พรรคการเมืองไหนถูกยุบ พรรคไหนรอดได้ทุกรอบ เพราะอะไร

ความรู้เหล่านี้ ไปอยู่ในระบบออนไลน์ กลายเป็นขุมความรู้ดิจิทัล ให้ขุดกันได้ไม่รู้จบ

ระบบการจดจำเรื่องราวในอดีต ช่วยทบทวนอดีต เติมรายละเอียดบางอย่างให้คนรุ่นเก่า และช่วยเปิดหูเปิดตาคนรุ่นใหม่

คนเสียประโยชน์จากระบบการจดจำนี้ คือ ฝ่ายที่ไม่อยากให้ประชาชน ไม่อยากให้สังคมจดจำพฤติกรรมของตนเอง

พลังแห่งการหลอนจากระบบการจดจำที่ว่านี้ จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นิรโทษกรรมได้ก็ไม่ลืม ลบได้แต่ไม่หมด

กรณีตัวอย่างจากเรื่องนี้ จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่