สถานีคิดเลขที่ 12 : ใครโกหก โดย นฤตย์ เสกธีระ

สถานีคิดเลขที่ 12 : ใครโกหก นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์

สถานีคิดเลขที่ 12 : ใครโกหก โดย นฤตย์ เสกธีระ [email protected]

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยเมื่อวันขึ้นปีใหม่ว่า มีสิ่งน่าเป็นห่วงในเขตเลือกตั้งที่ 1 ชุมพร

เพราะพบความผิดปกติและมีลักษณะกดดันการหาเสียง

กดดันโดยมี 100 ทหารจากนอกพื้นที่เข้าไปในพื้นที่

นายราเมศเรียกร้องให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจสอบ

Advertisement

เกรงว่าหากมีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะไม่ใช่การเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“ผมไม่อยากให้มีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ขณะนี้ได้เก็บหลักฐานไว้บางส่วนแล้ว วันหนึ่งคิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์” นายราเมศบอกในวันนั้น

เขต 1 จ.ชุมพร มีผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองต่างๆ สมัครชิงชัยกันคึกคัก

Advertisement

พรรคประชาธิปัตย์ คือ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ พรรคพลังประชารัฐ คือ นายชวลิต อาจหาญ พรรคก้าวไกล คือ นายวรพล อนันตศักดิ์ พรรคไทยศรีวิไลย์ คือ ร.ต.ท.สมชาย แพ่งยงยุทธ

ไม่ทราบว่า พรรคใดที่นายราเมศกลัวว่า 100 ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือ หรือมีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์

วันรุ่งขึ้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์รับทราบเรื่องดังกล่าว และสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานให้กองทัพบกทราบโดยด่วน

พร้อมทั้งยืนยันว่า กองทัพบกมีแนวทางการปฏิบัติในการสนับสนุนการเลือกตั้ง โดยให้กำลังพลวางตัวเป็นกลาง ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองใดๆ

วันเดียวกัน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไร

“ไม่มี กองทัพภาคที่ 4 ผมสั่งเด็ดขาด ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ให้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองตามนโยบายผู้บัญชาการทหารบก” พล.ท.เกรียงไกรบอกเอาไว้

ในเบื้องต้นข้อมูลจึงเป็นว่า ฝ่ายทหารยืนยันว่าไม่มีทหารเข้าไปทำแบบนั้น แต่อย่าลืมว่าฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐาน ดังนั้น เรื่องนี้จึงต้องพึ่งหลักฐานที่พรรคประชาธิปัตย์เก็บไว้

เสียงเรียกร้องให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งไม่ได้เพิ่งมี

จำการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 เมื่อปลายปี 2562 ได้ไหม

ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยก็ออกมาทักท้วง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามถึงการวางตัวเป็นกลาง โดยบอกว่ามีคลิปภาพการติดตามการหาสียง

“มีรถฮัมวีและรถของหน่วยราชการรทหารเพ่นพ่านกดดันเต็มเมือง”

ยังมีข้อสงสัยในพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แม้แต่ กกต.อีกด้วย

แต่เสียงเรียกร้องในตอนนั้นดังแล้วเงียบหาย หากคราครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานแล้วกองทัพพร้อมรับฟัง ทางกองทัพบกก็น่าจะรับฟังและรับหลักฐานการร้องเรียนในการเลือกตั้งซ่อมครั้งอื่นๆ ก่อนหน้านี้ด้วย

ยิ่งถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย หรือ กกต. หรือหน่วยงานอื่นใดเด้งรับ พร้อมตรวจสอบก็ยิ่งดี

พยานและหลักฐานต่างๆ ก็น่าจะนำมาเปิดเผย ถ้าไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ ก็น่าจะเปิดเผยในชั้นคณะกรรมาธิการ เพราะผู้ได้รับความเสียหายคือพรรคการเมือง

กรณีเหตุการณ์ที่จังหวัดชุมพร แม้จะมีคนบอกว่า หลังจากตกเป็นข่าว 100 ทหารได้ย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่หลักฐานขณะที่ทหารเหล่านั้นเข้าพื้นที่ก็น่าจะมี

หากปรากฏเป็นคลิปภาพ หรือมีพยานให้การยืนยัน กองทัพอาจจะต้องชี้แจงรายละเอียดมากกว่าคำยืนยันจากแม่ทัพ

ทั้งหมดนี้จะได้ช่วยกันพิสูจน์ว่า ระหว่างผู้กล่าวหาคือพรรคการเมืองกับผู้ถูกกล่าวหาคือเจ้าหน้าที่รัฐ

ใครคือคนโกหก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image